โควิด19 ส่งผลต่อเงินในกระเป๋าของคุณอย่างไร (ตอนที่2)

แชร์ให้เพื่อน

โควิด19 ส่งผลต่อเงินในกระเป๋าของคุณอย่างไร
(ตอนที่2)

ถึงแม้ว่าโควิด19 จะมีวัคซีนฉีดเพื่อป้องกันความรุนแรงของโรคอย่างแพร่หลายแล้วก็ตาม แต่ผล
กระทบก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมานาน 3 ปีแล้ว ซึ่งปัญหาจากโควิดที่พบได้เช่น ภาวะ long covid ซึ่งกระทบต่อสุขภาพกาย  สุขภาพจิต  และสุขภาพเงินในกระเป๋า โดยตรง

บทความตอนนี้เรามาดูว่าโควิด19 กระทบต่อระบบการเงินอย่างไรบ้าง

ถึงแม้ว่าเงินอาจไม่เกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรงแต่ทุกคนก็ย่อมปฏิเสธ​ไม่ได้ว่าถ้าสุขภาพเงินไม่ดี ย่อมส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ไม่ดีตามมาดังคำคมที่ว่า

ชีวิตดีเพราะมีตังค์  ชีวิตพังเพราะตังค์หมด
เป็นโรคซึมเศร้า   ถ้าเงินเข้าก็ดีน่ะ

จะเห็นได้ว่าธุรกิจการเงินสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆคือ ธนาคาร เงินทุนและหลักทรัพย์  ประกันภัยและประกันชีวิต
1.ธนาคาร 
สมัยก่อนการติดต่อกับธนาคารหรือการทำธุรกรรม​ต่างๆกับธนาคารคือต้องเดินทางเข้าหาธนาคารจะเห็นได้ว่าธนาคารต่างๆเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างกับดอกเห็ดแต่พอโควิด19ระบาดหนักทำให้ธนาคารลดการให้บริการที่สาขามีการปิดสาขาต่างๆมากขึ้น ความเจ็บป่วยจากโควิดที่มีระบบการกักตัว กำหนดการจำกัดการเดินทางไม่ได้เป็นอุปสรรคทางการเงินแต่อย่างใด​การจับจ่ายง่ายขึ้นแค่มีสมาร์ทโฟน​โหลดแอฟ​ของธนาคารก็ทำให้การใช้ชีวิตช่วงเจ็บป่วยได้ง่ายดาย  การใช้เงินในรูปแบบของธนบัตรลดลงอย่างมากเนื่องจากช่วงโควิด19ข่าวออกมาว่าเงินเป็นตัวกลางการระบาดของโควิด19 ทำให้คนเลือกที่จะใช้วิธีการจ่ายเงินค่าบริการต่างๆผ่านแอฟ​พลิเคชั่น​มากขึ้น
จากการระบาดโควิด19ครั้งนี้การจ่ายเงินผ่านแอฟพลิเคชั่น​ในรูปของการจองวัคซีนโควิด19 ซึ่งการชำระเงินแบบเงินสดไม่มีต้องชำระผ่านระบบแอฟพลิเคชั่น​เท่านั้น

หลังเหตุการณ์​การระบาดโควิด19แบบฝุ่นตลบผ่านไปย้อนกลับมาดูยอดเงินในบัญชีธนาคารที่จับจ่ายใช้สอยช่วงโควิด19  ประกอบกับพนักงานของบริษัทต่างๆถูกเลิกจ้างขาดรายได้เข้ามาการแก้ปัญหาของภาครัฐบาลโดยการจัดโครงการคนล่ะครึ่ง  เราเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศเนื่องจากปัญหาเงินฝืด  บางประเทศมีการนำเงินเข้าสู่ระบบในรูปของบิทคอย มีการเทรดบิทคอยอย่างแพร่หลายซึ่งจะกล่าวถึงในข้อต่อไป

2.เงินทุนและหลักทรัพย์
ช่วงการระบาดของโควิด19 ตลาดทุนตกลงมาอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสั้นๆ ประกอบกับนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้าน ประชาชนแห่เปิดบัญชีซื้อขายหลักและมีการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นตราสารหุ้น และบิทคอย จะเห็นได้ว่าประชาชนแห่เข้าเทรดบิทคอยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากมูลค่า แค่10, 000$/ต่อ1บิทคอยสูงขึ้นไปเป็น 69,000$/1บิทคอยเลยที่เดียว
หลังจากนั้นไม่นานบิทคอยร่วงลงอย่างรุนแรงสุดท้ายแล้วปัจจุบันมีการซื้อขายอยู่ที่ 19,000 $/1บิทคอยพร้อมๆกับตลาดหุ้นทั่วโลกค่อยๆมีการเทขายออกมาเรื่อยๆ อย่างเช่นตลาดยักษ์​ใหญ่อย่างดัชนีดาว​โจนส์​ลดลงภายใน1ปีคิดเป็น 15%ภายใน1ปีเลยทีเดียวขณะที่มหาอำนาจฝั่งคอมมิวนิสต์​จีนแผ่นดินใหญ่ก็ลดลงมาอย่างไม่แพ้กันภายใน1ปีลดลงถึง 19.66%กันเลยทีเดียวขณะที่ประเทศไทยเองก็ลดลงเพียง 5%เท่านั้นทั้งนี้ทั้งมีหุ้น Delta ซึ่งเป็นเงาด้านเทคโนโลยี่ค้ำตลาด

จับตามองต่อจากนี้ไปเกมตลาดทุนจะเป็นอย่างไรกันต่อไปเมื่อเจ้าใหญ่อย่าง PTT เปลี่ยนไลน์ธุรกิจปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมีการออกรถไฟฟ้ามากขึ้นและเปิดตัวบริษัทลูกที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์​แบบนี้จะไม่เรียกกินรวบแล้วจะบอกว่าอะไรกันค่ะ
จากสถานการณ์​ก่อนโควิดกองทุนยักษ์ใหญ่่อย่าง ARK investment management มีการโปรโมต​กองทุนที่มองไปในอนาคตข้างหน้าว่าการเติบโตทางเทคโนโลยี่ ด้านการแพทย์ โดยเน้นการลงทุนด้านนี้ทำให้หน่วยลงทุนลงมาอย่างไม่เป็นท่าลดลงมาที่ระดับ- 60%กันเลยทีเดียวจ้า
ถ้าเป็นแบบนี้แล้วบรรดา​กลุ่มนักลงทุนตลาดกองทุนจะไม่เครียดได้อย่างไรในพันทิปขาดทุนอย่างน้อย40-50%กันเลยน่ะตลาดต้องขึ้นมา100%เลยถึงจะคืนทุนจะไม่เครียดได้อย่างไรค่ะ
แม้แต่ตลาดทองคำและน้ำมันเองก็ลงมาเรื่อยๆไม่รู้จะจบตรงจุดไหน

3.ประกันภัยและประกันชีวิต
เรามาต่อด้วยการประกันภัยและประกันชีวิตกันเลยค่ะจะเห็นว่าช่วงแรกของการระบาดโควิด19แรกๆบริษัทประกันภัยออกผลิตภัณฑ์​ประกันภัย​โควิด19ด้วยเบี้ยประกันเพียงหลักร้อยแต่ชดเชยสินไหมหลักแสนกรณีตรวจพบเชื้อแบบ เจอ จ่าย จบ รับเงินเข้ากระเป๋าตุงไปตามๆกันแต่หลังจากนั้นไม่นานโควิด19ระบาดเข้าประเทศไทยประกันภัยแบบ เจอ จ่าย จบ ด้วยเบี้ยหลักร้อย จ่ายสินไหมหลักแสน ก็ต้องเกินกรณีตามมาการร้องเรียนคปพ.อย่างไม่หยุดหย่อนในประเด็นการจ่ายสินไหมล่าช้าหรือประวิงการจ่ายสินไหม
จากบทเรียนของโควิด19ครั้งนี้เองทำให้โควิด19ระบาดหนักขึ้นเพื่อผลประโยชน์บางอย่างหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้
อย่างไรเสียการระบาดของโรคโควิด19 ทำให้ประชากรทั่วโลกหันกลับมาดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตเพื่อให้ดีขึ้นพร้อมๆกับโควิด19ที่จากโลกนี้ไปแต่ก็มีทีมวิจัยจากจีนแผ่นดินใหญ่ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าพบเชื้อไวรัสตัวไหม่​ XBB ที่กำลังเริ่มระบาดในขณะนี้ที่จีนแล้วแบบนี้จีนจะจัดการอย่างไรกับนโยบาย Zero Covid แต่ถ้าจะใช้สมองอันน้อยนิดของผู้เขียนเพื่อจบเกมนี้ก็คือ Covid 19เป็น 0 แล้วจริงๆแต่ที่ระบาดไหม่คือเชื้อตัวไหม่
นั่นเอง
ถ้าเป็นแบบนี้จริงวันจันทร์นี้หรือไม่เกินสิ้นเดือนตุลาคมนี้เราจะได้เห็น ตลาดทุน เติบโตรอบไหม่
อย่างสวยงาม เขียวขจีทั่วโลกหรือไม่รอติดตามกันค่ะ
อย่างไรเสียการลงทุนมีความโปรดพิจารณาก่อนการลงทุนค่ะจะได้ไม่เครียดตามมา
โปรดติดตามบทความตอนต่อไปค่ะ

“การลงทุนมีความเสี่ยง”

แชร์ให้เพื่อน