ความเครียดของวัยเด็กตอนปลาย
จากสถานการณ์โควิด19 ระบาด ช่วง 3 ปีที่ผ่านทำให้ระบบการศึกษาเปลี่ยนจากเรียนที่สถานศึกษามาเป็นเรียนที่บ้าน เด็กต้องปรับตัวกับการใช้เครื่องมือสื่อสารและระบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ประกอบกับการกักตัวส่งผลให้เด็กเกิดความเครียดเนื่องจากวัยเด็กตอนปลายเป็นวัยที่เริ่มต้นของการเรียนรู้ทุกด้าน การเข้าสังคมปรับตัวกับการอยู่กับกลุ่มเพื่อน ซึ่งการเรียนที่สถานศึกษาย่อมเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ได้เร็วแต่เมื่อมีข้อจำกัดต่างๆ ทำให้วัยเด็กตอนปลายเกิดความเครียด
ความเครียดทำให้เกิด ความวิตกกังวัล ซึมเศร้า กลัวอย่างไร้เหตุผล อารมณ์ไม่มั่นคง เปลี่ยนแปลงง่าย ประสิทธิภาพการเรียนรู้แย่ลง บางครั้งมีนิสัยก้าวร้าวไม่เชื่อฟังพ่อแม่
สาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดของวัยเด็กตอนปลายคือ
1.พ่อแม่ที่เข้มงวดกับลูกมากเกินไป เข้มงวดทุกอย่างเกินไป ทำให้เด็กมีพัฒนาการถดถอย
2.คาดหวังกับลูกมากเกินไป ต้องการเลี้ยงให้ได้ดั่งใจตัวเอง โดยไม่คิดย้อนกลับสมัยตัวเป็นเด็ก คาดหวังลูกต้องสอบได้ที่ 1 เข้าเรียนคณะดีๆ มหาวิทยาลัยดังๆ แต่ลืมที่จะประเมินถึงความสามารถและความถนัดของลูก เพื่อที่จะได้ส่งเสริมให้ลูกได้เลือกแนวทางการดำเนินชีวิตที่มีความสุขในวัยผู้ใหญ่และมีอนาคตที่สดใส
3.เป็นห่วงมากเกินไป การเป็นลูกเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้ามากเกินไป ทำให้เด็กไม่สามารถที่จะเผชิญและแก้ปัญหาเมื่อออกสู่สังคมภายนอก โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด19ที่ผ่านมา พ่อแม่บางคนคุมเข้มเรื่องความสะอาดจนเกินความพอดี ใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดจนเกินความจำเป็น
4.ตามใจมากเกินไป ทำให้เด็กมีความรู้สึกว่าตัวเองทำได้ทุกอย่างที่ต้องการแต่เมื่อต้องเผชิญกับสังคมภายนอกจะทำให้เกิดปัญหาการปรับตัวเนื่องจากสิ่งแวดล้อมและสังคมข้างนอกมีการแข่งขัน แก่งแย่งสูง ฉะนั้นการปฏิเสธในบางครั้งก็จะช่วยให้เด็กปรับตัวและเผชิญกับการถูกปฏิเสธเมื่อโตขึ้น สามารถจัดการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
5.การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี่และการสื่อสารที่รวดเร็ว เนื่องจากการใช้อินเตอร์แบบเสรีเด็กไม่สามารถแยกแยะได้เหมื่อนผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเกมออนไลน์ ทำให้เด็กติดเกม ไม่รับผิดชอบการเรียน
จิตใจอ่อนไหวง่าย มีพฤติกรรมเลียนแบบเกมออนไลน์
เมื่อเด็กเกิดความเครียดจะแสดงพฤติกรรมต่างๆเช่น
1.ขาดความมั่นใจในตนเอง ไม่กล้าแสดงออก นิสัยขี้อายไม่กล้าเผชิญหน้า
2.มีนิสัยเก็บตัว แยกตัวอยู่ตามลำพัง อาจเกิดอาการซึมเศร้า ไม่มีเหตุผล
3.เด็กเริ่มโกหก นิสัยก้าวร้าวรุนแรงมากขึ้น
4.ฉี่รดที่นอน
5.ไม่อยากไปโรงเรียน บ่นปวดท้อง ป่วย ปวดหัว
วิธีลดความเครียดในเด็ก
1.การออกกำลังกายเช่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ
ทำให้เด็กสดชื่น รู้สึกสนุกสนาน ลดความวิตกกังวลได้
2.ทำกิจกรรมในครอบครัวร่วมกันเช่น วาดรูป เต้นรำ ปลูกต้นไม้ ฟังเพลง ดูทีวี เล่นเกมค้นหาคำศัพท์
3.การแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสมเช่น ร้องให้เมื่อเสียใจ การร้องให้เป็นการระบายความเครียดอย่างหนึ่ง
4.มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวัน แต่ควรเคร่งครัดเรื่องระเบียบวินัย
5.ยอมรับในความสามารถและไม่ควรบังคับเมื่อเด็กไม่พร้อม
6.ค้นหาสาเหตุของปัญหาก่อนการลงโทษและหาแนวทางแก้ปัญหา
7.ส่งเสริมกิจกรรมที่เด็กชอบและชมเชยเมื่อทำได้ดี
จากยุคเก่าเข้าสูยุคแห่งเทคโนโลยี่สำหรับเด็กรุ่นใหม่จะปรับตัวและเติบโตไปพร้อมๆกันแต่พ่อแม่ซึ่งเป็นยุคเก่า ไม่เข้าใจเทคโนโลยี่จึงต้องปรับตัวและก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่โตแบบก้าวกระโดดจะได้เข้าใจวัยเด็กตอนปลายมากขึ้น เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
ติดตามบทความดีๆ ด้านสุขภาพจาก healthybestcare.com