กฎ7ข้อ ศาสตร์แห่งการควบคุมอารมณ์
การควบคุมอารมณ์(Emotional Control) คือทักษะในการจัดการกับสิ่งเร้าต่างๆที่ทำให้เกิดการตื่นตัวและแสดงพฤติกรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
องค์ประกอบของอารมณ์มี 3 ประการคือ
1.องค์ประกอบด้านสรีระ(Physical dimension) เป็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดขึ้นควบคู่กับอารมณ์เช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกตามร่างกาย อารมณ์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายมากที่สุดคือ อารมณ์กลัว ซึ่งอารมณ์กลัวทำให้หลั่งฮอร์โมนแอดรีนาลีนจากต่อมแอดรีนัล(Adrenal gland) และอารมณ์โกรธ ซึ่งอารมณ์โกรธจะหลั่งฮอร์โมนนอร์แอดรีนาลีน(Noradrenalin)
2.องค์ประกอบทางด้านการนึกคิด(Cognitive dimension) เป็นปฏิกิริยาด้านจิตใจต่อสิ่งเร้าและเกิดเป็นอารมณ์ขึ้นมา เช่น ชอบ-ไม่ชอบ ถูกใจ-ไม่ถูกใจ
3.องค์ประกอบด้านประสบการณ์(Experiential dimention) เป็นการเรียนรู้ภายในจิตใจของแต่ละบุคคลในอดีต ซึ่งมีความแตกต่างกันไป
การแสดงออกของอารมณ์นั้นสามารถแสดงออกมาโดยคำพูดและสีหน้า ท่าทาง อาจเกิดความสับสนในการตีความได้เนื่องจากสังคมและวัฒนธรรม เช่น การแลบลิ้น บางกลุ่มชนเป็นการทักทาย ในสังคมจีนแสดงถึงความประหลาดใจ
นักจิตวิทยาพบว่าอารมณ์แรกของมนุษย์ คืออารมณ์ตื่นเต้น ขณะที่ทารก 3 เดือน มีเพียง อารมณ์เศร้า และอารมณ์ดีใจ สำหรับอารมณ์ที่มีความสลับซับซ้อนจะปรากฏขึ้นตามวุฒิภาวะ เช่น อารมณ์ก้าวร้าวและรุนแรงเป็นผลมาจากความคับข้องใจ หรือถูกกดขี่ตลอดเวลา
ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงต้องเรียนรู้วิธีการควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สามารถปรับตัวและดำรงชีพอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
กฏ 7 ข้อศาสตร์แห่งการควบคุมอารมณ์มีดังต่อไปนี้
1.การรู้เท่าทันอารมณ์ โดยการมีสติอยู่เสมอ เพื่อควบคุมอารมณ์ให้คลายลงได้ เช่น การขับรถใกล้วัด บริเวณที่เผาศพ มองเห็นเงาตะคุ่ม ก่อให้เกิดอารมณ์กลัวทำให้เร่งขับเร็วขึ้นทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งที่เงานั้นเป็นเงาต้นไม้ ถ้าใช้สติมากขึ้นก็ไม่ทำให้เกิดความสูญเสีย
2.การมีความอดทน การขาดความอดทนทำให้ใจร้อน รอคอยไม่เป็น ไม่อดกลั้น ก่อให้เกิดปัญหาหลากหลายเช่นการเกิดอุบัติเหตุตามท้องถนน ทะเลาะเบาะแว้ง ลงไม้ลงมือ การฝึกความอดทนอดกลั้นจะช่วยลดปัญหาต่างๆลงได้ และเกิดผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต
3.การมีกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นได้ เป็นการผ่อนปรน การรู้จักผ่อนสั้น ผ่อนยาว ความไม่เคร่งครัดในบางโอกาส ถ้าเคร่งครัดมากเกินไปเกิดผลเสียมากกว่าผลดีก็ต้องมีความยืดหยุ่นลงบ้าง เช่นความเคร่งเครียดกับการทำงานหามรุ่งหามค่ำซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ เราควรแบ่งช่วงเวลา ผ่อนคลาย อารมณ์ ใช้วันหยุดพักร้อนเพื่อพักผ่อน
4.ควรหยุดพักก่อน เมื่อสังเกตุว่าเราแสดงอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม เราควรต้องหยุดพักเพื่อจะได้คิดทบทวนย้อนกลับว่าเหตุใดเราถึงแสดงอารมณ์นั้นออกมา
5.การให้รางวัลกับตัวเอง เป็นการเสริมแรง สร้างพลังทางบวกแก่จิตใจ เช่น การไปเที่ยว การซื้อทรัพย์สินให้ตัวเอง รวมถึงการฝึกสมาธิเป็นการเสริมพลังทางจิตด้วย
6.การบันทึกชนิดของสิ่งเร้าที่กระตุ้นอารมณ์(Mood Tracker) โดยจดบันทึกระดับความรู้สึกอารมณ์ด้วยสีต่างๆที่บ่งบอกความรู้สึกเศร้า โกรธ เฉยๆ หรือมีความสุขมากๆ และต้องเป็นการบันทึกอย่างซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง ทำให้เราเข้าใจและสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
7.พัฒนาการด้านอารมณ์เป็นความสามารถในการแยกแยะความรู้สึก และการควบคุมการแสดงออกของอารมณ์อย่างเหมาะสมเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆตลอดจนการสร้างความรู้สึกที่ดีและนับถือตัวเอง
ติดตามบทความอื่นเพิ่มเติมได้ที่ healthybestcare.com