6 โรคเรื้อรัง โรคร้ายใกล้ตัว
การใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ทำให้เกิดความเครียดและส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม
โรคเรื้อรัง หมายถึงภาวะเจ็บป่วยเรื้อรังที่มีองค์ประกอบดังต่อไปนี้คือ
- เป็นความเจ็บป่วยอย่างถาวร
- การดำเนินของโรคไม่แน่นอน
- ภาวะความเจ็บป่วยไม่หายขาด แต่อาการทุเลาลงได้ โดยไม่ปรากฏอาการ
- เกิดความพิการหลงเหลืออยู่
- ต้องการการดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานหรือตลอดชีวิต
- ต้องมีการดูแลเอาใจใส่ติดตามการรักษาและให้การช่วยเหลือเป็นเวลานาน
6 โรคเรื้อรังมีโรคอะไรบ้าง? เรามาดูกันเลยคะ
1.โรคเบาหวาน เป็นกลุ่มอาการที่ตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากขาดอินซูลิน อันเป็นผลจากตับอ่อนผลิตบกพร่องหรืออินซูลินออกฤทธิ์ที่ขาดประสิทธิภาพ
สาเหตุของโรคเบาหวาน
- โรคเบาหวานชนิดพึ่งอินซูลินเกิดจากพันธุกรรม
- โรคเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลินเกิดจากโรคอ้วน โรคตับ ความเครียด ความผิดปกติในการผลิตฮอร์โมน การขาดเบต้าเซลล์ ยาบางชนิด และขาดการออกกำลังกาย
อาการของโรคเบาหวานมีอะไรบ้าง?
- ปัสสาวะบ่อยและมีปริมาณมาก
- คอแห้ง กระหาย น้ำดื่มน้ำมาก
- น้ำหนักลด กินเก่ง อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
การรักษาโรคเบาหวาน
- การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้กลับสู่ภาวะปกติ หรือใกล้เคียงปกติโดยระดับน้ำตาลก่อนอาหารเช้าไม่เกิน 140 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารเช้า 2 ชั่วโมงไม่เกิน 180 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารกลางวัน 2 ชั่วโมงไม่เกิน 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่พบน้ำตาลและสารอะซีโตนในปัสสาวะก่อนอาหารเช้าและเย็น มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ
2. โรคความดันโลหิตสูง เป็นภาวะความดันโลหิตช่วงบนมีค่าสูงกว่า 140 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป และค่าความดันโลหิตช่วงล่างมีค่าสูงกว่า 90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป
สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง
- ภาวะความดันโลหิตสูงที่ไม่ทราบสาเหตุ พบได้ร้อยละ 90 มีความเกี่ยวข้องกับความอ้วน อาหารที่มีโซเดียม ไขมัน คอเลสเตอรอลสูง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียด และกรรมพันธุ์
- ความดันโลหิตสูงชนิดทราบสาเหตุ พบได้ร้อยละ 10 เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น ไต ต่อมไร้ท่อ โรคครรภ์เป็นพิษ ยาคุมกำเนิดหรือยาสเตียรอยด์
อาการของโรคความดันโลหิตสูง - ความดันโลหิตสูงระดับเล็กน้อย (ช่วงบน 140-149 มิลลิเมตรปรอทช่วงล่าง 90-99 มิลลิเมตรปรอท) จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะใดๆ
- ความดันโลหิตสูงระดับปานกลาง (ช่วงบน 160-179 มิลลิเมตรปรอท ช่วงล่าง 100-109 มิลลิเมตรปรอท)จะตรวจพบหัวใจซีกซ้ายโตขึ้น ไตทำหน้าที่เสียไปในระดับปานกลาง
- ความดันโลหิตสูงระดับรุนแรง(ช่วงบนสูงกว่า 180 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป ช่วงล่างตั้งแต่ 110 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป)มีการทำลายของหัวใจ สมอง ไต และหลอดเลือดหลังลูกตา
การรักษาโรคความดันโลหิตสูง
มีเป้าหมายในการลดความดันโลหิตสูงในการรักษาคือ
- เพื่อให้ระดับความดันสูงในช่วงปกติและต่อเนื่อง
- ลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ตามปกติทั่วไป
การรักษาโรคความดันโลหิตสูงมีหลายวิธีดังนี้
1.การควบคุมความดันให้ปกติโดยไม่ใช้ยา สามารถทำได้โดย
- การออกกำลังกายวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร เลี่ยงอาหารไขมันจากสัตว์ ลดกินแป้ง น้ำตาล เพิ่มผักใบเขียว และจำกัดอาหารรสเค็ม
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ผ่อนคลายอารมณ์เครียด
- การควบคุมน้ำหนักให้ปกติ
- ติดตามตรวจรักษาอย่างต่อเนื่อง
2.การควบคุมความดันโลหิตสูงโดยการใช้ยา โดยแพทย์แผนปัจจุบันเป็นผู้สั่งยาให้รับประทาน
3.โรคหัวใจ เป็นกลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจจำแนกได้ดังนี้คือ
- กลุ่มอาการที่เจ็บหน้าอกคงที่และเรื้อรัง
- กลุ่มอาการโรคหลอดเลือดโคโรนารีเฉียบพลัน
- กลุ่มอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
สาเหตุของโรคหัวใจ
พบร้อยละ 90 เกิดจากภาวะการแข็งตัวของหลอดเลือดโคโรนารี โดยมีไขมันเกาะผนังหลอดเลือดและสร้างเนื้อเยื่อมาหุ้ม ฉีกขาดได้ เลือดเกิดการแข็งตัวเป็นลิ่มเลือด เข้าไปอุดตันภายในหลอดเลือด เมื่อเกิดการตีบแคบทำให้เลือดผ่านไปเลี้ยงหัวใจได้น้อยลงเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตายในที่สุด
อาการของโรคหัวใจ
- กลุ่มอาการที่เจ็บหน้าอกคงที่และเรื้อรัง มีอาการเจ็บกลางอก ร้าวไปแขนด้านใน คอ กรามและหัวไหล่
- กลุ่มอาการโรคหลอดเลือดโคโรนารีเฉียบพลัน มีอาการเจ็บหน้าอกขณะพัก ร่วมกับอาการเหงื่อแตก หน้ามืดเป็นลม ใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน และหายใจหอบเหนื่อย
- กลุ่มอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีอาการเหนื่อย นอนราบไม่ได้ เจ็บแน่นหน้าอก เป็นลม หมดสติ
การรักษาโรคหัวใจ
มีเป้าหมายเพื่อลดความรุนแรงของโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้แก่
- การรักษาโดยการใช้ยา กลุ่มรักษาอาการเจ็บหน้าอก ยาต้านการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด ยาละลายลิ่มเลือด ยาควบคุมระดับไขมันในเลือด
- การเปิดขยายหลอดเลือดแดงด้วยบอลลูน การใส่โครงตาข่าย การตัดเอาคราบไขมันออก การตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ การขยายหลอดเลือดด้วยแสงเลเซอร์เป็นหัตถการในโรงพยาบาล
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและควบคุมปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากการใช้ยารักษาอย่างเดียวอาจไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ เพื่อช่วยยับยั้งและชะลอความก้าวหน้า ลดภาวะแทรกซ้อนและความรุนแรงของโรค การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร การออกกำลังกายการผักผ่อนนอนหลับ การผ่อนคลายความเครียด การปฏิบัติตัวให้สัมพันธ์กับแนวทางการรักษา