การพยาบาลแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกในเด็ก(Burn in children)

แชร์ให้เพื่อน

การพยาบาลแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกในเด็ก(Burn in children)

การเกิดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกในเด็กเล็กมักพบได้บ่อยเช่น อันตรายจากนมที่ร้อนจัด ทำให้เกิดการบาดเจ็บในช่องคอ ทางเดินหายใจ สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองควรต้องให้ความสำคัญในการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดตามมา สำหรับแนวทางในการรักษา​ผู้ป่วยเด็กที่เกิดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกก็มีความแตกต่างอย่างมากกับผู้ป่วยผู้ใหญ่โดยเฉพาะในเรื่องของสัดส่วนของร่างกาย ความหนาและแข็งแรงของผิวหนัง ระยะเวลาการหายของแผล(wound healing) ระบบการเผาผลาญ​อาหาร(metabolism)​ ภาวะความสมดุลของร่างกาย(Homeostasis)

การดูแลแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกในจุดเกิดเหตุ

เน้นการลดระยะเวลาในการสัมผัส​ความร้อนของเด็กโดยการดับไฟ หรือลดอุณหภูมิ​โดยรีบถอดเสื้อผ้าหรือดับไฟที่ติดกับเสื้อผ้าและซับบริเวณ​บาดแผลด้วยผ้าที่สะอาด ชุ่มน้ำเย็น ไม่ควรใช้น้ำแข็งเพราะจะทำให้เกิดการบาดเจ็บ​ของผิวหนังมากขึ้นได้ และห่อแผลด้วยผ้าที่สะอาดเพื่อลดการปนเปื้อนของแผลและป้องกันการสูญเสียความร้อน ลดความแสบร้อน เจ็บปวดและรีบนำส่งสถานพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย ลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมาได้

การติดตามดูแลผู้ป่วย burn ในเด็กที่มีความรุนแรง จึงต้องติดตามดูแลในประเด็นดังต่อไปนี้​

1.การติดตามสัญญาณ​ชีพ โดยเฉพาะอัตราการเต้นของหัวใจในช่วง 24-72 ชมแรก หากหัวใจเร็วผิดปกติมีผลทำให้เกิดภาวะ hypovolemia ได้ ความดันโลหิต ต้องให้อยู่ในเกณฑ์​ใกล้เคียง​ปกติมากที่สุด
2.การติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจ(ECG)​ในผู้ป่วยที่โดนไฟดูดเพื่อตรวจดูภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะขาดออกซิเจน(hypoxia) ความสมดุลกรดด่างในร่างกาย(Electrolyte imbalance) เพื่อแยกประเด็นจากผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจอยู่เดิม
3.การติดตามดูแลในระบบทางเดินหายใจ การหายใจลำบาก หายใจขัด การฟังเสียงการหายใจ(Breathing sound) การตรวจวัดระดับออกซิเจน​ในเลือด(oxigen​ saturation) อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นในกลุ่มที่สูดควันหรือมีบาดแผลบริเวณลำคอ อาจทำให้เกิดทางเดินหายใจบวมหรือตีบตัน​ได้ การดูแลทางเดินหายใจโดยการกระตุ้นการไอ การดูดเสมหะ การพลิกตะแคงตัว เป็นต้น
4.การติดตามการทำงานของไต ปริมาณ​ของปัสสาวะโดยเฉพาะในช่วงวิกฤติ​ ค่าแรงโน้มถ่วงจำเพาะของปัสสาวะ ระดับน้ำตาลในปัสสาวะ​ในรายที่มีความเครียดหรือภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด(Sepsis) อาจเป็นสาเหตุ​หนึ่งที่ทำให้มีปัสสาวะ​ออกมากขึ้นได้
5.การติดตามด้านระบบประสาท กรณีพบว่ามีบาดเจ็บที่ศีรษะ​ร่วมด้วยเช่นตกจากที่สูง ต้องบันทึกสัญญาณ​ทางระบบประสาท​( neurological sign) ได้แก่ ระดับความรู้สึกตัว pupillary เป็นต้น
6.การติดตามอุณหภูมิ​ของร่างกาย ต้องควบคุมให้ใกล้เคียง​กับปกติ เพราะผู้ป่วย burn นั้นจะสูญเสียผิวหนังที่จะช่วยปรับอุณหภูมิ​ของร่างกาย
7.การติดตามประเด็นการติดเชื้อที่บาดแผลรวมถึงการติดเชื้อในกระแสเลือด(Sepsis)​ เพราะเป็นประเด็นปัญหาที่สำคัญในผู้ป่วย Burn เนื่องจากบาดแผลมีการปนเปื้อนจากผิวหนังสูญเสียหน้าที่ โดยการส่งตรวจสารคัดหลั่งจากแผล สังเกตุ​ลักษณะ​กลิ่น สีของบาดแผลที่เปลี่ยนแปลง​เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อที่บาดแผลและในกระแส​เลือด​(Sepsis)​ตามมาได้ การมีไข้ไม่ทราบสาเหตุ​ ปวดแผลมากขึ้น มีการบวมและแดงของเนื้อเยื่อรอบๆบาดแผล เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าในรายที่มีพยาธิสภาพที่รุนแรงอาจทำให้มีความพิการทำให้เกิดปัญหา​ทางจิตใจร่วมด้วย ดังนั้นการดูแลผู้ป่วยแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกนอกจากจะเน้นแก้ไขและป้องกันปัญหาทางร่างกายแล้วต้องให้ความสำคัญด้านจิตใจเนื่องจากผู้ป่วยเสียภาพลักษณ์​ตามมา หากการรักษาจนแผลหายดีแล้ว ควรหลีกเลี่ยง​ไม่ให้แผลถูกแสงแดดประมาณ​3-6เดือน ใช้​น้ำมัน​มะกอกหรือ baby oil ชะโลมผิวหนังเพื่อลดอาการแห้งและคันเพราะผิวหนัง​ใหม่ยังไม่แข็งแรง​ ต่อมต่างๆยังทำงานไม่ได้เต็มที่หากคันมากอาจต้องกินยาแก้แพ้เป็นครั้งคราวได้


สนใจบทความอื่นๆเกี่ยวกับหัวใจติดตามอ่านได้ที่ healthybestcare.com

แชร์ให้เพื่อน