7 วิธีการสร้างแรงบันดาลใจและการปรับตัวในการทำงาน หลังผลกระทบจากโรคโควิด 19

แชร์ให้เพื่อน

7 วิธีการสร้างแรงบันดาลใจและการปรับตัวในการทำงาน หลังผลกระทบจากโรคโควิด 19

การเริ่มต้นทำงานใหม่ในสิ่งที่เรายังไม่คุ้นเคยนั้นเป็นเรื่องที่เราต้องปรับตัว  และเรียนรู้ในการเลือกงานให้เหมาะสมกับความรู้และความสามารถที่ตัวเรามี  และประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมา  หลังเหตุการณ์โรคโควิด19 ระบาดในช่วง 3 ปีที่ผ่าน  การใช้ชีวิตในการทำงานของเราต้องเปลี่ยนแปลงไป  เริ่มจากการเปลี่ยนสถานที่ในการทำงานจากที่ทำงานมาเป็นทำงานที่บ้าน  สำหรับบางอาชีพนั้นไม่สามารถเลือกสถานที่ในการทำงานได้  เนื่องจากต้องทำงานในสถานที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยอย่างอาชีพพยาบาล  แต่สำหรับบางอาชีพนั้นอาจต้องเข้าทำงานที่สำนักงานเป็นบางครั้ง ขณะที่ผู้เขียนเองนั้นเมื่อเกิดภาวะเจ็บป่วยโรคโควิด 19 ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพหลายอย่างทั้งในด้านความจำ ความเจ็บป่วยทางด้านร่างกายจึงออกจากงานมาปีกว่าเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว แต่กลับไม่ไช่เรื่องง่ายที่จะหางานประจำเนื่องจากปัจจัยด้านอายุที่มากขึ้น และปัญหาด้านความจำ ความเจ็บด้านร่างกายต่างๆ  ฉะนั้นเราจึงต้องปรับตัวเพื่อมองหางานที่เหมาะสมกับเราให้มากที่สุด


ทำไมเราถึงจำเป็นต้องสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจในการทำงาน

มนุษย์เรานั้นเกิดมาด้วยต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน  บางคนเกิดมาพร้อมกับสินทรัพย์ที่มีอยู่อย่างมหาศาลจากบรรพบุรุษกลายเป็นทายาทมหาเศรษฐีตั้งแต่เกิด   ขณะที่บางคนเกิดมาแล้วจำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนต่อไปเพื่อความอยู่รอด

ฉะนั้นผู้เขียนเองจึงต้องสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ตัวเองเพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไป เรามาดูกันเลยว่าเราสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างไรบ้าง

  1. การประเมินความสามารถของตนเองในการทำงาน  โดยการเขียนจุดแข็ง และจุดอ่อนที่ตนเองมีออกมาเป็นข้อๆ   ว่าเรามีความรู้  ความสารถในด้านใดมากที่สุด และสามารถปรับเปลี่ยนจุดอ่อน เพื่อให้เหมาะสมกับงานใหม่ได้หรือไม่ หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจ ในการเลือกว่าเราจะทำอะไร   ซึ่งผู้เขียนเองนั้นเรียนจบด้านการพยาบาล และเรียนเพิ่มเติมด้านการบริหารธุรกิจสาขาการจัดการ หากมองด้านอาชีพการพยาบาลแล้วไม่ได้เป็นเรื่องง่ายที่เราจะทำงานนอกสถานที่ได้ ฉะนั้นเราต้องมองหาอาชีพถัดมาเพื่อให้เหมาะสมกับความรู้และความสามารถที่เรามี
  2. ประเมินประเด็นปัญหาด้านสุขภาพของตนเอง  การประเมินด้านสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการทำงานเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนงานให้เหมาะสมกับตนเอง
  3. ประเมินด้านทัศนะคติในการปรับตัวต่องานที่ตนเองได้เลือกแล้ว  เพราะงานที่เลือกอาจไม่ใช่งานที่ชอบทั้งหมดในชีวิต และสร้างรายได้ ณ วันนี้ เราจำเป็นต้องปรับตัวกับรายได้ที่ไม่เหมือนการทำงานประจำซึ่งมีรายได้เข้ามาตอนสิ้นเดือนตลอด เป็นต้น
  4. การปรับตัวด้านสังคม สัมพันธภาพ เนื่องจากการทำงานเราไม่มีเพื่อนร่วมงานเหมือนการทำงานประจำ  เราจำเป็นต้องสื่อสารผ่านโลกสังคมออนไลน์มากขึ้น และปรับตัวกับเพื่อนใหม่ในสถานที่ต่างๆ  ที่เราเดินทางไปให้เข้ากับสำนวนที่ว่า  เข้าเมืองตาหลิ่ว  ต้องหลิ่วตาตาม  
  5. เปิดใจยอมรับในการเรียนรู้งานใหม่  เปิดใจกว้างในการเรียนรู้จากเพื่อนใหม่ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการยอมรับฟังคำวิจารณ์ผลงานอย่างรอบด้านและนำมาวิเคราะห์เพื่อสามารถนำมาสร้างแรงบันดาลใจและปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้น ช่วยให้เราประสบความสำเร็จตามที่วางเป้าหมายไว้
  6. สร้างกรอบแนวคิดแบบเติบโต ปรับตัวได้เก่ง  ยอมรับฟังคำวิจารณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ตัวเองสามารถพัฒนาต่อยอดไอเดียไห้มีความหลากหลายและนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  7. การปรับตัวด้านอาหารการกิน  อาหารบางอย่างอาจมีราคาแพงหากขายในที่ที่มีความต้องการซื้อต่ำ และมีราคาถูกลงในที่ที่มีความต้องการซื้อสูง  เช่น ส้มตำหากขายในเมืองไทยย่อมมีราคาถูกกว่าขายในต่างประเทศ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าการสร้างแรงบันดาลใจนั้น ย่อมมีความเกี่ยวข้องกับการปรับตัว รวมถึงความฉลาดทางด้านอารมณ์และสังคม การมองโลกด้านบวก รวมถึงการสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเอง  หากรับสามารถปรับตัวได้ เราก็สามารถรับมือได้กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ ทั้งในด้านการทำงานและการใช้ชีวิต


สนใจบทความอื่นๆเกี่ยวกับหัวใจติดตามอ่านได้ที่ healthybestcare.com

แชร์ให้เพื่อน