เรื่องสั้น  คนเซราะกราว ตอน ทิดชมโดนของ

แชร์ให้เพื่อน

เรื่องสั้น  คนเซราะกราว

ตอน ทิดชมโดนของ

          เนื้อเรื่องจากตอนที่แล้ว ทิดชมไปไต้อึ่งอ่างแม่ไข่ที่ท้ายหมู่บ้าน แล้วคิดว่าตัวเองโดนงูสามเหลี่ยมกัดที่เท้าขวา จึงเดินทางกลับมาบ้านของตาแก้วพร้อมกับซากงูสามเหลี่ยม และเป็นลมสลบไปที่หน้าบ้านของตาแก้วนั่นเอง ตาแก้วเปิดประตูบ้านมาเจอพอดี จึงร้องเรียกตาย้อยให้มาช่วยยกร่างทิดชมขึ้นบนแคร่ “ตาย้อย มาช่วยยกไอ้ทิดชมขึ้นนอนบนแคร่หน่อย ไม่ทราบว่ามันเป็นอะไรมา” ตาย้อยซึ่งเป็นตาของทิดชมบ้านอยู่ข้างกันกับตาแก้ว ตาย้อยเป็นหม้ายมาหลายปีแล้ว หลังจากที่เมียเสียชีวิตลงและทิดชมออกเรือนไป ตาย้อยก็อาศัยอยู่คนเดียวมาตลอด มีทิดชมช่วยนำอาหารมาให้เป็นครั้งคราวที่มีอาหารมื้อพิเศษ เช่น ต้มไก่ ต้มเห็ด แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง เป็นต้น “หลานข้าเป็นอะไรรึ ตาแก้ว ยายระย้า” ตาแก้วตอบว่าข้าก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ มาๆช่วยกันพยุงทิดชมขึ้นบนแคร่ก่อน นับ หนึ่ง สอง สาม ยกขึ้น หนักมากเหมือนกันแหะ” ตาย้อยมองไปที่มือขวาของทิดชม เห็นซากงูสามเหลี่ยมยังกำอยู่ จึงร้องบอกตาแก้ว “สงสัยโดนงูกัดมาแน่เลย ที่ขามีเชือกรัดไว้นี่” ตาแก้วรีบคลายเชือกออกพร้อมกับสำรวจหาบาดแผลที่ข้อเท้า “แต่บาดแผลเหมือนไม่ใช่โดนงูพิษกัดนะ เพราะไม่มีรอยเขี้ยวเลย น่าจะเป็นงูไม่มีพิษมากกว่าถ้าบาดแผลเป็นแบบนี้” ตาแก้วพูดขึ้น ตาย้อยบีบนวดตามตัวพร้อมตบหน้าเบาๆ เรียกหลานชายให้รู้สึกตัว “ทิดชมหลานตาตื่นๆ”ทิดชมเริ่มรู้สึกตัวขยับแขนขา ลืมตาขึ้น พร้อมกับเอ่ยถาม “ข้าเป็นอะไรไปตา ข้าอยู่ที่ใหน นางพราวเมียข้าละ”  “เองได้อึ่งอ่างไข่มาเต็มข้องเลย” ตาย้อยพูดขึ้น ขณะที่ตาแก้วกำลังสาละวนกับการเปิดห่อผ้าสีขาวหม่นที่มีท่อนไม้สมุนไพรชนิดต่างๆอยู่มากมายหลายชนิดและหยิบออกมาสามชนิดฝนๆเข้ากับก้อนหินเบาๆละลายน้ำประมาณครึ่งกระบวย พร้อมกับร่ายคาถาทำปากมุบมิบ “ข้าจำได้แล้ว เมื่อคืนฝนตกหนักหลังฝนหยุด ข้าออกไปไต้อึ่งอ่างที่ใกล้จอมปลวกต้นไม้ใหญ่ทางทิดตะวันออกของหมู่บ้านนะตา” ตาแก้วหันมาสบตากับตาย้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร “ข้าเจ็บที่ข้อเท้าขวา เห็นงูสามเหลี่ยมเลื้อยผ่านไป ไอ้ด่างกัดตายข้าเลยนำซากงูมาด้วย” ตาแก้วยื่นกระบวยตักน้ำที่มียาสมุนไพรบรรจุอยู่ พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ดื่มยาสมุนไพรนี่ก่อนนะ ทิดชม” ทิดชมรับยาสมุนไพรมาดื่ม พร้อมกับแสดงสีหน้า ผะอืดผะอม “ทำไมขมมากขนาดนี้ละตาแก้ว” “หวานเป็นลม ขมเป็นยา กินให้หมด กลั้นหายใจ กินคำใหญ่ๆ เดี่ยวก็หมดแล้ว” ตาแก้วพูดให้กำลังใจทิดชม สักพักหลังจากกินยาสมุนไพรแล้วมีอาการผะอืดผะอมอย่างหนัก พร้อมกับอาเจียนพุ่งออกมา “อ๊วก อ๊วก” ทิดชมอ๊วกออกมาจนหมดไส้หมดพุง หลังจากนั้นตาแก้วยื่นน้ำในกระบวยให้ทิดชมบ้วนปาก และยื่นใบยาสมุนไพรให้ทิดชมเคี้ยวแล้วกลืนลงคอ โดยตาแก้วร่ายคาถาภาษาเขมรมุบมิบในลำคอ พร้อมกับพ่นน้ำหมากใส่บริเวณแผลสามครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นพีธีการถอนพิษจากการโดนของคนไทยภาคอีสานตอนล่าง (เขมร) ข้าเป็นอะไรตาแก้ว “ทิดชมเอ่ยปากสอบถามตาแก้ว หลังจากหายเป็นปกติแล้ว “เอ็งโดนของ ที่ตรงนั้นเจ้าที่มันแรง อย่างไปใกล้แถวนั้นอีกละ” ตาแก้วหันไปสบตากับตาย้อยอย่างมีเลศนัย ทิดชมไม่ทันสังเกตเห็นพฤติกรรมของสองตาเฒ่า ทิดชมรีบลุกขึ้นและเอ่ยขึ้นว่า “ข้ารีบกลับบ้านละ นางพราวคงเป็นห่วงข้า” ตะวันเริ่มส่องแสงยามเช้า ฟ้าสีแดง เป็นสัญญาณวันใหม่ของการเริ่มต้นของคนเซราะกราว ทิดชมคว้าข้องที่มีอึ่งแม่ไข่พร้อมกับแบ่งปันให้ยายระย้า ตาย้อย “ข้ากลับบ้านก่อนนะตา” ไอ้ด่างวิ่งนำหน้ากลับบ้านตามเคย ระหว่างทางเดินกลับบ้านไอ้ด่างยกขาฉี่ใส่ต้นไม้ใหญ่ เป็นการแสดงให้รู้ว่าเป็นการจำเส้นทางและแสดงอาณาจักรของสัตว์สี่เท้า ทิดชมมองเห็นแต่ไกลว่าเมียท้องแก่นั่งรอที่ประตูราวบันไดบ้าน “ทำไมถึงกลับมาช้านักละ ข้าเป็นห่วงมากรู้ไหม?” ทิดชมเลือกที่จะไม่บอกเมียสาวท้องแก่ใกล้คลอด ยื่นส่งข้องใส่อึ่งแม่ไข่ให้นางพราว พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ครั้งหน้า ครั้งหลัง อย่ามานั่งบริเวณประตูอีกนะ เดี่ยวจะทำให้คลอดลูกยาก” แท้จริงแล้วการนั่งบริเวณธรณีประตูนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการคลอดลูกยากหรือง่ายแต่อย่างใด หากเป็นเพียงกุสโลบายของคนสมัยโบราณเพราะกลัวตกบันไดนั่นเอง นางพราวพยักหน้าหงึกหงึก พร้อมรับข้องใส่อึ่งแม่ไข่แล้วเดินเข้าครัวไปเพื่อทำต้มอึ่งอ่างแม่ไข่เป็นอาหารเช้า

“ทิดชม ทำไมถึงกลับมาถึงบ้านช้านักละ” พ่อของนางพราวเอ่ยปากถาม ทิดชมหันซ้าย หันขวาก่อนพูดขึ้นเบาๆ กลัวนางพราวได้ยิน “ข้าโดนของที่จอมปลวกท้ายหมู่บ้าน ตาแก้วแก้ของให้แล้วพ่อ” พ่อของนางพราวทำหน้าฉงน ก่อนจะเอ่ยปากบอกทิดชม “วันหลังเอ็งไปเรียนวิชาอาคมจากตาแก้วสิ เพราะตาแก้วแก่แล้วเองจะได้เป็นทายาทรุ่นต่อไป แต่เองต้องปฏิบัติตัวให้ได้นะ ถ้าปฏิบัติตัวไม่ได้จะเป็นเหมือนตาย้อยนั่นแหละ” ตาย้อยเป็นคนที่มีวิชาอาคมเรียนรุ่นเดียวกันกับตาแก้วนั่นแหละ แต่ตาย้อยกินเหล้าจึงผิดคะลำ กลายเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงมีฉายาให้ตาย้อยว่า “กระหังประจำหมู่บ้าน และโดนบูลี่มาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” เสียงไอ้ด่างเห่าผู้มายืน “นางพราวอยู่ไหม” เสียงของยายระย้าเรียกเจ้าของบ้าน “ฉันอยู่นี่จ๊ะยาย” นางพราวส่งเสียงตอบรับ พร้อมกับเดินอุ้ยอ้ายออกมาหายายระย้า “เดี่ยววันนี้ข้าจะตรวจครรภ์เองซักหน่อย” นางพราวพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ได้จ๊ะยาย ฉันขอเวลากินข้าวก่อนนะ” นางพราวตักต้มอึ่งแม่ไข่ใส่ชามเดินเอาไปให้พ่อ เป็นการแบ่งปันอาหารของคนเซราะกราวเมื่อได้อาหารมื้อพิเศษ นางพราวกลับมากินข้าวพร้อมกับทิดชมอย่างเอร็ดอร่อย และเดินกลับไปหายายระย้าเพื่อตรวจครรภ์ต่อไป

      รบกวนติดตามตอนต่อไปว่า ย้ายระย้าจะตรวจครรภ์และสอนนางพราวเรื่องการเตรียมตัวก่อนคลอดในประเด็นไหนบ้าง? และเรื่องราวของตาย้อยเกี่ยวกับฉายา “กระหัง” ประจำหมู่บ้าน หากชื่นชอบเรื่องสั้น คนเซราะกราว รบกวนกดไลค์ กดแชร์ และติดตามตอนอื่นๆ ได้ที่ Healthy bestcare.com

 

 

แชร์ให้เพื่อน