เรื่องสั้น  คนเซราะกราว ตอน  คนเล่นของ

แชร์ให้เพื่อน

เรื่องสั้น  คนเซราะกราว

ตอน  คนเล่นของ

      เนื้อเรื่องสั้นคนเซราะกราวตอนที่แล้ว หลังจากที่ทิดชมโดนของที่ท้ายหมู่บ้าน  ตาแก้วใช้วิชาอาคมทางไสยศาสตร์และยาสมุนไพรที่ได้ร่ำเรียนมาช่วยแก้มนต์ดำให้ทิดชมจนปลอดภัย และวันรุ่งขึ้นยายระย้าเดินทางมาที่บ้านเพื่อตรวจครรภ์

“นางพราวโน้มตัวลงนอนหงายบนที่นอนเดี๋ยวข้าจะตรวจครรภ์ให้เจ้า” ยายระย้าพูดขึ้น  ยายระย้าใช้มือทั้งซ้ายขวาคลำคัดท้องของนางพราวเพื่อตรวจดูท่าของเด็กในท้อง ว่ามีการหันหัวลงหรือยัง ขณะที่เด็กในท้องบางคนก็เอาขาออกมาก่อน หรือเอามือออกมาก่อน หรือหันด้านข้าง ยายระย้าคลำท้องไปมา 2-3 ครั้ง เพื่อคัดท้องให้เด็กอยู่ในท่าปกติคือการคลอดแบบเอาหัวออกก่อนนั่นเอง  “เป็นยังงัยบ้างจ๊ะยาย ลูกข้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ข้าจะคลอดง่ายไหมยาย”  นางพราวถามด้วยความวิตกกังวล เนื่องจากเป็นท้องแรก ยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการคลอดลูกมาก่อน และมีความอยากรู้ว่าจะได้ลูกชายหัวปีคนแรกตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ “ไม่ต้องกังวลหรอก ทำใจให้สบายนะหลาน  จะลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชายก็ลูกเรานั่นแหละ” แม้ว่ายายระย้ารู้อยู่เต็มอกว่า ตอนนี้ลูกในท้องของนางพราวอยู่ในท่าเอาขาออก ซึ่งเป็นท่าที่คลอดยาก และเด็กในท้องของนางพราวเป็นเพศหญิง แต่ยายระย้าก็ไม่ยอมปริปากบอกแต่อย่างใด เพราะว่าเป็นข้อห้ามที่สำคัญที่ครูหมอตำแยโบราณสั่งสอนมา  ก็คือห้ามบอกพ่อแม่เด็กหรือญาติพี่น้องว่าเด็กในท้องเป็นเพศอะไร เพราะถือว่าเป็นข้อห้ามข้อเดียวที่สำคัญในวิชาชีพของหมอตำแยไทยสมัยโบราณนั่นเอง เพราะหากบอกไปแล้วเกิดคลอดออกมาไม่ตรงตามที่บอกไว้อาจทำให้พ่อแม่และญาติคาใจว่าใช่ลูกของตนจริงๆหรือไม่? มีการแอบสลับเด็กคนอื่นในผู้บ้านที่คลอดในวันเดียวกันหรือไม่?  ซึ่งจะมีผลต่อการเลี้ยงดูเด็กในอนาคตนั่นเอง

       “ลูกน้อยของข้าจะคลอดยากไหมยาย” นางพราวเอ่ยปากถามยายระย้า ด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความวิตกกังวลอย่างบอกไม่ถูก  ยายระย้าจึงอธิบายเรื่องท่าคลอดที่คลอดยากเช่น กรณีที่ทารกอยู่ในท่าขวางเอาไหล่ลง ทารกในครรภ์มีตัวใหญ่มากเกินไป  และกรณีที่ช่องเชิงกรานแคบของหญิงตั้งครรภ์ สำหรับกรณีของนางพราวนั้นมีปัญหาแค่เด็กคลอดโดยใช้ขาเป็นส่วนนำแค่นั้น หากในสมัยปัจจุบันนั้น หากมีประเด็นที่กล่าวมานี้หมอสูตินรีแพทย์มักจะพิจารณาผ่าท้องคลอดเพราะเป็นการช่วยลดภาวะเสี่ยงการเสียชีวิตของเด็กแรกเกิดนั่นเอง ยายระย้าอธิบายต่อ เรื่องของการเจ็บครรภ์เตือนและเจ็บครรภ์คลอด(ได้กล่าวถึงในตอนที่แล้ว)  “ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงกำหนดคลอดมากแล้ว จะเดินลงขึ้นบันไดก็ต้องระมัดระวัง อย่ายกน้ำเป็นถังใหญ่นะ ห้ามกินลูกมะเขือพวงเด็ดขาดเลยนะ” ยายระย้าบอกด้วยความเป็นห่วง “จ๊ะยาย” นางพราวรับปากยายระย้าแต่ก็ไม่ได้ปริปากถามเรื่องมะเขือพวงว่าทำไมถึงไม่ให้กิน หากถามยายระย้า คำตอบที่ได้ก็น่าจะเป็นว่า คนแก่สมัยก่อนเล่าสืบทอดกันมา และยายระย้านั้นอาบน้ำร้อนมาก่อนนั่นเอง “เดี่ยวข้าจะต้องรีบกลับก่อนละ เพราะจะไปตรวจครรภ์นางนวลต่อ น่าจะคลอดใกล้เคียงกับเองนี่แหละ” นางพราวหยิบอัฐส่งให้ยายระย้าเป็นค่าตรวจครรภ์หนึ่งสลึง  (มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน  ไม่ควรซื้อก็อย่าพิไรซื้อ ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาล จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดรันทดใจ <บทกลอนของสุนทรภู่>)และกลายเป็นบทกลอนที่พ่อของนางพราวสอนให้นางพราวเป็นคนประหยัด มัธยัสถ์ในเรื่องการใช้เงินและการเก็บออมนั่นเอง และเป็นบทกลอนที่สามารถใช้สอนเด็กในรุ่นต่อๆมาได้เช่นกัน ยายระย้ากำลังเดินจะไปบ้านนางนวลเจอตาย้อยพอดีที่หน้าบ้าน “อ้าวตาย้อย มาทำอะไรที่นี่” ตาย้อยตอบด้วยเสียงที่แสดงถึงความกังวลใจ “ข้ามาหาไอ้ทิดชม พอดีมีธุระจะคุยด้วยนิดหน่อย” นางพราวได้ยินเสียงตาย้อยมาที่บ้าน รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ  ถึงแม้ว่าตาย้อยจะเป็นตาแท้ๆ ของทิดชมก็ตาม แต่เนื่องจากใช้ความเชื่อและขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นแนวทางการใช้ชีวิตของคนเซราะกราวสมัยโบราณ “ไม่อยู่หรอกตา ออกไปทุ่งนา ตั้งแต่กินข้าวเช้าเสร็จยังไม่กลับมาเลย” ตาย้อยคอแห้งผาดเนื่องจากอากาศร้อนจัดในช่วงเดือนมีนาคม จึงเลียริมฝีปากเบาๆ เนื่องจากริมฝีปากแห้ง นางพราวแอบสังเกตเห็นรู้สึกกลัวจับใจขึ้นมาทันที 

        ตาย้อยนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตาแก้ว เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่วัยเด็ก และเดินทางไปร่ำเรียนวิชารักษาโรคด้วยสมุนไพรและคาถาเวชมนต์ทางไสยศาสตร์ด้วยกันโดยมีครูเป็นคนเขมรที่อยู่ติดเขตชายแดนเขมร  ตาย้อยนั้นเป็นผู้เล่นไสยศาสตร์เมื่ออาคมแข็งกล้าจนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ของเข้าตัวตาย้อยกลายเป็นผีกระหัง ผีปอบซึ่งตาย้อยก็เข้าข่ายนี้และตาย้อยไม่ได้ปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติต่างๆ  กินเหล้าเลยผิด คะลำ ชาวบ้านจึงคิดว่าตาย้อยเป็นผีกระหัง หรือผีปอบตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา คำว่าผีกระหังเป็นผีชนิดหนึ่ง เป็นผีผู้ชายคู่กับผีกระสือที่เป็นผีผู้หญิง สิงในตัวของตาย้อย มีหาง ขาเป็นสากกะเบือ และมีปีกเป็นกระด้งฟัดข้าว ติดแขนทั้งสองข้างออกบินหากินของโสโครกในเวลากลางค่ำคืน มีแสงไฟวิบวับ วิบวับ เรื่องเล่าเกี่ยวกับผีกระหัง ผีกระสือ ผีปอบนั้นมีมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ เช่น คืนวันหนึ่งเป็นคืนเดือนมืด มีบ้านหลังหนึ่งเป็นคนแก่แล้วเจ็บป่วยนอนติดเตียง วันนั้นเป็นช่วงหน้าฝนพอดี ตามสถานที่เซราะกราวนั้นหากฝนตกปัญหาที่ตามมาคือไฟฟ้าดับ เสียงอึ่งอ่างร้องระงม หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งใช้ไฟฉายส่องลงจากบ้านเพื่อส่องดูรอบๆ บ้าน หากแต่แสงไฟฉายสะท้อนกับกระจกบ้านพอดี จึงทำให้ยายคนหนึ่งซึ่งแกเป็นคนธรรมะธรรมโม เชื่อเรื่องผีปอบ ผีกระสือและผีกระหัง อย่างงมงาย แกจึงเล่าบอกคนในเซราะกราวว่าคนที่ป่วยนอนติดเตียงเป็นผีปอบ ทั้งที่หญิงวัยกลางคนที่ใช้ไฟฉายส่องรอบๆบ้านพยายามอธิบายแล้วก็ตาม ว่าแสงไฟที่เกิดลูกไฟนั้นเป็นแสงจากไฟฉาย แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของหญิงชราที่มีความเชื่ออย่างงมงายลงได้ เพราะคนเซราะกราวสมัยก่อนมักเชื่อเรื่องราวต่างๆ รวมถึงเรื่องราวด้านสุขภาพโดยไร้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์นั่นเอง

  “งั้นข้ากลับบ้านก่อนละ อย่าลืมบอกทิดชมไปหาข้าที่บ้านคืนนี้ด้วยนะ มีธุระสำคัญต้องคุยกัน” ตาย้อยพูดพร้อมกับก้าวเดินจากไปอย่างเงียบๆ มีความรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ ที่ตัวเองเดินทางมาบ้านหลานสะใภ้ที่เป็นหญิงท้องแก่ใกล้คลอด

    ณ.เวลาพลบค่ำของครอบครัวชายหนุ่มและหญิงสาววัยรุ่นหลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย และเตรียมตัวเข้านอน นางพราวนึกขึ้นมาได้ว่าตาย้อยมาบอกให้ทิดชมไปหาที่บ้านมีธุรสำคัญจะคุยด้วย จึงเอ่ยปากบอกผัวว่า “ตาย้อยให้ไปหาคืนนี้ให้ได้  รีบไป รีบกลับมานะพี่” ทิดชมมีความรู้สึกกังวลในใจแต่ก็ไม่กล้าที่จะปริปากบอกภรรยาได้ ค่ำคืนนี้เป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือนสาม และพระจันทร์เต็มดวง ท้องฟ้าสว่างไสว  เจ้าด่างเห็นเจ้านายก้าวลงจากบ้าน รีบวิ่งนำหน้ามุ่งตรงไปที่บ้านของตาแก้วและตาย้อย ท่ามกลางความวิตกกังวลของนางพราวที่ผัวต้องไปพบบุคคล2คนที่มีคาถาอาคมทั้งในด้านสว่างและด้านมืด ในเวลากลางคืนพระจันทร์เต็มดวงในหมู่บ้านเซราะกราวแห่งนี้

      “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” เสียงเห่าของไอ้ดำหมาตาแก้วดังลั่นรอบบ้าน “ตาแก้ว ตาย้อย ข้ามาแล้ว” ทิดชมตะโกนร้องบอก พร้อมกับปรามไอ้ดำ “ช๊บ ช๊บ ปรุ๊ค อาคเมา” สายตาของทิดชมเหลือบมองเห็นตาแก้วและตาย้อยนั่งคุยกันสองคนท่ามกลางแสงเทียนจุดเหมือนกำลังทำพิธีกรรมอะไรซักอย่างหนึ่ง เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ทิดชมจะกลายเป็นทายาทรุ่นต่อมาด้านไสยศาสตร์มนต์ดำหรือไม่อย่างไร รบกวนติดตามอ่านเรื่องสั้น คนเซราะกราว และกดไลค์ กดแชร์ ซับสไคร้ เพื่อสร้างกำลังใจแด่ผู้เขียนมือใหม่ภายใต้นามปากกา Rommyrom คะ

แชร์ให้เพื่อน