เรื่องสั้น  คนเซราะกราว ตอน  ไสยศาสตร์เแก้โดนของ

แชร์ให้เพื่อน

เรื่องสั้น  คนเซราะกราว

ตอน  ไสยศาสตร์เแก้โดนของ

       ไสยศาสตร์นับเป็นศาสตร์แห่งความลึกลับ ความเชื่อ ความศรัทธา ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิพราหมณ์ อันเป็นลัทธิว่าด้วยเรื่องของเวทมนต์และคาถา จะเห็นได้ว่าในสังคมไทยยังมีคนที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์อยู่เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะไสยศาสตร์เขมร ซึ่งรวมถึงเขมรตอนล่างหรือเขมรอีสานใต้และเขมรอาณาจักรกัมพูชา ไสยศาสตร์เพื่อการรักษานับเป็นไสยศาสตร์สีขาว มีประโยชน์ต่อผู้คน โดยใช้วิชาเวทมนต์ คาถา อาคม ร่วมกับการใช้สมุนไพรต่างๆในการรักษา เนื่องจากคนมีความเชื่อว่าความเจ็บป่วยเกิดจาก 3 สาเหตุหลักๆคือ

  1. ความเจ็บป่วยที่แท้จริง เช่น โรคไข้จับสั่น ฝีดาษ อีสุกอีใส
  2. ความเจ็บป่วยจากการทำของคน เช่น ยาสั่ง ปอบเข้าสิง ถูกปล่อยของเข้าตัว ถูกทำร้ายด้วยคาถาอาคม
  3. ความเจ็บป่วยจากภูตผีปีศาจ เช่น เป็นบ้า เสียสติ ปวดท้อง จุกเสียด ร้อนรุ่ม พูดจาไม่รู้เรื่อง

       เนื้อเรื่องตอนที่แล้ว หลังจากทิดชมโดนของ ตอนไปไต้อึ่งใกล้จอมปลวกที่ท้ายหมู่บ้านและได้รับการรักษาเบื้องต้นไปแล้ว วันนี้ตาแก้วและตาย้อยนัดทิดชมเพื่อการทำพิธีแก้ของเข้าตัวอีกครั้งหนึ่ง

      “เข้ามาสิทิดชม” เสียงของตาแก้วพูดขึ้น โดยไม่ได้หันหน้ามามองว่าใครมาเยือนบนบ้าน ด้วยเสียงที่ดังฟังชัด ฟังแล้วเหมือนไม่ใช่เสียงของตาแก้วแน่นอน โดยมีตาย้อยนั่งอยู่ข้างๆกันในบริเวณแถวนั้น ตาแก้วนั่งหันหน้าเข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตาแก้วเชื่อถือและศรัทธาได้แก่ นางกวัก ฮกลกซิ่ว กุมารทอง นกคุ้ม ไซดักทรัพย์ พญาเต่า ตะเพียนเงิน ตะเพียนทอง และพ่อปูชูชก รวมถึงสิ่งอื่นๆอีกมากมาย มีการจุดธูปเทียนและวางดอกไม้ไว้เพื่อบูชา “นั่งลงหน้าขันน้ำ” ตาย้อยพูดขึ้น ขันน้ำสีขาวบรรจุน้ำศักดิ์สิทธิ์ไว้เกือบเต็มขันและมีใบไม้หลากหลายชนิดบรรจุอยู่ พร้อมกับมีเทียนไขจุดวางไว้ข้างๆ ตาย้อยดูดวงตามวันเดือนปีเกิดของทิดชมเรียบร้อยแล้วพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “ดวงของทิดชมปีนี้ ตกอยู่ความวินาศ ต้องทำการสะเดาะเคราะห์” ตาแก้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินเข้ามาหาทิดชม ใช้ไม้ตีที่ศีรษะของทิดชมเบาๆ สามครั้งพร้อมกับร่ายคาถาเป็นภาษาเขมร ทำปากมุบมิบ มุบมิบฟังไม่ได้ศัพท์ พร้อมกับเคี้ยวหมากในปาก “ยกมือพนมขึ้น หลับตา นึกถึงพ่อแก้ว แม่แก้ว เข้าไว้นะ” ตาแก้วบอกขั้นตอนถัดไป ตาย้อยนำสายสิญจน์สีขาวหม่น มาล้อมรอบบริเวณที่ทิดชมนั่ง พร้อมนำปลายสายสิญจน์มาวางบนหัวแม่มือของทิดชม ตาแก้วใช้มือขวาจับที่กลางศีรษะของทิดชม ร่ายคาถาภาษาเขมร ฟังไม่ได้ศัพท์ พร้อมพ่นน้ำหมากใส่กลางศีรษะสามครั้ง คายกากหมากออกมาจากปาก พูดเบาๆ แล้วโยนกากหมากออกไปนอกบ้าน เป็นการแสดงถึงทุกข์โศก เคราะห์กรรมจงมลายหายไปนั่นเอง ตาย้อยนำขวดน้ำมาใส่น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จนเต็ม แล้วยื่นให้ทิดชม “น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี่ นำไปดื่มทุกวันก่อนนอน” และบอกให้ทิดชมนำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือไปอาบทันที หลังจากทิดชมอาบน้ำมนต์เสร็จเรียบร้อยเป็นอันเสร็จพิธีการแก้เคราะห์กรรมในครั้งนี้ เวลาผ่านไปล่วงเลยเข้าสู่คืนวันใหม่ ตาแก้วบอกทิดชมให้รีบกลับบ้านนอนพรุ่งนี้ค่อยเจอกันใหม่อีกครั้ง พร้อมกับยื่นไซดักทรัพย์ให้ทิดชมไปบูชาตามความเชื่อของคนเชมรตอนล่างที่ว่าถ้าบูชาไซดักทรัพย์ จะช่วยให้อยู่บ้านด้วยความสงบสุข ร่มเย็น ช่วยปรับฮวงจุ้ยในบ้านอีกด้วย ไซจะช่วยดักเงิน ดักทอง ทรัพย์สิน เงินทองไม่หายไปไหน “แล้วข้าจะต้องบูชาไซดักทรัพย์ ยังงัย” ทิดชมถามขึ้น “ให้นำไซไปแขวนที่เหนือประตูบ้านให้หันปากไซออกไปข้างนอกบ้าน แล้วในแต่ละวันให้นำเงินหนึ่งสลึงใส่เข้าไปในใสทุกวันเมื่อเดินทางเข้าบ้านเพื่อเป็นการออมเงินนั่นเอง พร้อมกับท่องคาถาว่า อุอา กะสะ วันละเก้าครั้ง และห้ามหันปากใสเข้าบ้านเด็ดขาดเพราะจะทำให้เงินทองรั่วไหลนั่นเอง” ตาแก้วอธิบายยืดยาว

      เหตุผลที่ตาแก้วเลือกวันพระจันทร์เต็มดวงเป็นวันแก้กรรม สะเดาะเคราะห์นั้น เนื่องจากมีความเชื่อว่า ในวันพระจันทร์เต็มดวงเป็นช่วงที่พระจันทร์มีพลังงานมากที่สุด และสวยที่สุดบนท้องฟ้า ช่วงนี้เป็นเวลาของการตื่นรู้และการเฉลิมฉลองในสิ่งที่ดี เป็นช่วงที่อิทธิพลของดวงจันทร์ส่งผลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการเปิดรับสิ่งดี ๆ หรือสานสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ช่วงนี้สำหรับบางคนอาจจะได้โชคลาภ ใครที่อยากจะมูฟออน อยากพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ถ้าได้อิทธิพลของดวงจันทร์มาเสริมแล้ว ก็จะช่วยทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

       ทิดชมก้าวลงจากบันไดบ้านของตาแก้ว ได้ยินเสียงหมาหอนเป็นระยะๆ รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ เพราะในใจของทิดชมมีความเชื่อว่าหากหมาหอนแสดงว่าหมาเห็นผีหรือเกิดความผิดปกติในสิ่งที่มองไม่เห็นนั่นเอง    หากความเป็นจริงนั้น การหอนของสุนัข เป็นกลไกของร่างกายตามธรรมชาติของสุนัข เพราะสุนัขสามารถได้ยินเสียง ที่มีคลื่นความถี่สูงเกินกว่าที่มนุษย์จะได้ยิน เมื่อได้ยินคลื่นแบบนี้แล้ว สุนัขจะหูอื้อ และหอนออกมาเพื่อระบายความหูอื้อนั้น ดังนั้น เราจึงมักได้ยินสุนัขหลายตัวหอนติด ๆ กัน เพราะพวกมันได้ยินคลื่นเสียงในระดับความถี่ที่ใกล้เคียงกันพร้อม ๆ นั่นเอง

       ไอ้ด่างวิ่งนำหน้าทิดชมกลับบ้านตามเคย  เวลากลางคืนพระจันทร์เต็มดวงสว่างใสวทั่วท้องฟ้า ทิดชมรีบก้าวเท้าเดินกึ่งวิ่ง ใกล้ถึงบ้านเข้ามาทุกที และแล้ว หูของทิดชมได้ยินเสียงดังแปลกๆ  “กรุ๊ง กริ๊ง กรุ๊ง กริ๊ง หริ่งๆๆๆๆๆ” เหมือนเสียงกระพรวนแขวนคอวัว ควาย ดังมาจากสวนหม่อนของพ่อตา ทิดชมรวบรวมพละกำลังเท่าที่มี รีบวิ่งขึ้นบนบ้าน เมื่อเปิดประตูบ้านถึงกับตกใจกับสภาพที่เห็นภายในบ้าน เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปว่าทิดชมเห็นอะไร ถึงต้องตกใจขนาดนั้น?  หากชื่นชอบเรื่องราวชีวิตของคนเสราะกราว รบกวนกดไลค์ กดแชร์ และกดซับสไคร้ เพื่อให้เพื่อนๆได้อ่าน และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน เจ้าของนามปากกา Rommyrom ขอบคุณคะ

 

แชร์ให้เพื่อน