ผื่นคัน ลมพิษ (Urticaria) อย่าคิดว่าไม่สำคัญ
ผื่นลมพิษเป็นผื่นคันที่มีลักษณะสำคัญคือ เป็นผื่นแดง นูน สีของผิวหนังเมื่อกดแล้วจะซีดแล้วกลับมาเป็นสีชมพูเหมือนเดิม ผื่นลมพิษสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนของร่างกาย โดยทั่วไปนั้นมักพบบริเวณที่หน้า ลิ้น แขนขา หรืออวัยวะเพศ
ลมพิษเป็นได้ทั้งแบบเฉียบพลัน มีระยะเวลาน้อยกว่า 6 สัปดาห์และลมพิษเรื้อรัง ในรายที่เป็นนานกว่า 6 สัปดาห์
สาเหตุของลมพิษนั้นมีมากมายหลายสาเหตุได้แก่
1.ลมพิษจากปฎิกิริยาของยาบางชนิด
2.ลมพิษจากปฏิกิริยาของอาหารบางชนิด
3.ลมพิษจากการสัมผัสสารบางอย่างจากการหายใจ การกิน หรือสัมผัสทางผิวหนังโดยตรง
4.ลมพิษที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือเกิดจากละอองเกสรของดอกไม้บางชนิดเป็นต้น
5.ลมพิษที่เกิดจากการสัมผัสแมลงบางชนิด
6.ลมพิษในโรคมะเร็ง
7.ลมพิษที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศเช่น อากาศเย็น อากาศร้อน
ผู้ป่วยที่มีปัญหาลมพิษเรื้อรัง ต้องให้ข้อมูลแก่ผู้รักษาเกี่ยวกับการเกิดอย่างละเอียดและตามความเป็นจริงเพราะข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยหาสาเหตุของการเกิดลมพิษแบบเรื้อรังและ สามารถวินิจฉัยโรคและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางครั้งต้องใช้ข้อมูลร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อประกอบการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง
แนวทางการรักษาผู้ป่วยลมพิษเรื้อรังมีดังนี้
1.อธิบายเรื่องการดำเนินของโรคลมพิษเรื้อรังให้ผู้ป่วยทราบ รวมถึงผลข้างเคียงของยาหากต้องใช้เป็นเวลานาน
2.แนะนำให้ป่วยสังเกตุว่าอะไรทำให้เกิดอาการและหลีกเลี่ยงจากสิ่งกระตุ้นทั้งหลาย เช่น ความเครียด ความร้อน การดื่มแอลกอฮอล์ การใส่เสื้อผ้าแน่น กดรัดเกินไป การรับประทานอาหารที่ใส่วัตถุกันเสีย หรือใส่สีผสมอาหาร
3.แนะนำเรื่องการรับประทานยา ส่วนใหญ่มักเป็น
กลุ่มยาแก้แพ้นั่นเอง
จะเห็นว่าลมพิษเรื้อรังนั้น เป็นโรคที่ก่อให้เกิดความไม่สุขสบายและก่อความรำคาญให้กับผู้ป่วยในการดำเนินชีวิตประจำวัน