หายนะ จากการใช้ยาฆ่าเชื้อ แบบไม่ระวัง

แชร์ให้เพื่อน

หายนะ จากการใช้ยาฆ่าเชื้อ แบบไม่ระวัง

สมัยก่อน หลาย ๆ ครั้งจะเห็นพี่น้อง เพื่อนฝูง หวังรือคนรอบตัวบ่นว่า “เจ็บคอ ไปหายาฆ่าเชื้อมากิน” ซึ่งเป็นอะไรที่ได้ยินบ่อยจนชินหูมาก ฟังแล้วก็รู้สึกเฉย ๆ เออ ก็เค้าป่วย เค้าก็ต้องไปหาหมอ หรือไม่ก็ไปซื้อยาฆ่าเชื้อมากินหรือเปล่า ??? คล้าย ๆ จะสมเหตุสมผล แต่เมื่อย้ายมาอยู่ยุโรป การจะได้ยาฆ่าเชื้อมากิน เป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก ต่อล้อต่อเถียงกับหมอก็แล้ว เค้าก็ไม่ให้ จริง ๆ ไม่ใช่ว่าหมอเค้าจะอยากกวนประสาทเราหรอกนะ แต่เพราะประเทศแถบยุโรป เค้ามีการจำกัดและควบคุมการใช้ยาฆ่าเชื้ออย่างเคร่งครัด เพราะฉะนั้นหมอจะสั่งยาฆ่าเชื้อให้คนไข้แต่ละที ต้องมีเหตุผลที่หนักแน่นมารองรับ และเราไม่สามารถไปหาซื้อยาฆ่าเชื้อมากินเอง โดยปราศจากใบสั่งยาจากหมอ จึงทำให้บ้านเค้ามีโอกาสเจอเชื้อโรคที่ดื้อยาน้อยกว่าบ้านเรามาก บ้านเราในที่นี้ผู้เขียนอ้างถึงประเทศในแถบเอเชีย

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก ยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ (ภาษาอังกฤษ : Antibiotic) เป็นยาที่ถูกใช้ในการรักษา และป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยอาจออกฤทธิ์ฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสอง ส่วนยาที่ใช้ฆ่าเชื้ออื่น ๆ ไม่รวมอยู่ในกลุ่มนี้

นอกจากการใช้ยาฆ่าเชื้อในคนแล้ว การใช้ในสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะอุตสาหกรรมเลี้ยง วัว หมู ไก่ ก็ใช้กันมากไม่แพ้กัน ทั้งนี้ก็ใช้เพื่อป้องกันหรือรักษาสัตว์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าใช้เพื่อไม่ให้สัตว์ตาย เพื่อป้องกันการขาดทุนของบริษัท
ใช้ยาฆ่าเชื้อ แล้วเกิดอะไรขึ้น??

เมื่อเราใช้ยาฆ่าเชื้อไม่ว่าในคน หรือสัตว์ บางส่วนก็เอาไปใช้ฆ่าเชื้อในร่างกาย บางส่วนก็ถูกปล่อยออกมาทางปัสสาวะ หรืออุจจาระ หลังจากนั้นเราก็ล้างมูลต่าง ๆ เหล่านี้ลงพื้นดิน หรือเอามูลต่าง ๆ เหล่านี้ไปทำปุ๋ย แล้วเอามาปลูกผัก ผลไม้ รับประทานต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ ยาฆ่าเชื้อที่ปะปนมาบนดิน หรือในปุ๋ย ก็ถูกชะล้างไปยังแม่น้ำลำคลอง ไปอาศัยอยู่ตามสิ่งแวดล้อมแถวนั้น และเจ้าตัวแบคทีเรียที่อาศัยอยู่แถว ๆ นั้น ก็พยายามพัฒนาตัวเองเพื่อให้อยู่รอด แหม!!! ขนาดมนุษย์เองก็ยังพยายามปรับตัวเพราะกลัวตาย แล้วทำไมแบคทีเรียจะไม่กลัวตายหล่ะจริงมั้ย ??

วันหนึ่งชาวไร่ ชาวนา เดินไปสะดุดกิ่งไม้ ก็ได้แผลกลับมาพร้อมกับของแถม กับเชื้อที่เคยชินกับยาที่ถูกปล่อยลงสู่ธรรมชาติ ปกติเมื่อร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย ร่างกายเราก็พยายามต่อต้านแหล่ะ แต่นี่ร่างกายต้านไม่ไหว แผลก็อักเสบลุกลามไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายไปหาหมอ หมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อ ให้ไปให้มาก็เสียชีวิต สุดท้ายก็อาจจะจบลงที่หมอรักษาไม่ดี หมอเลี้ยงไข้ หมอไม่ใส่ใจคนไข้ 30 บาท อะไรก็ว่าไป ก็แล้วแต่ใครจะว่าอะไรก็ว่ากันไป แต่ความจริง ก็คือความจริง เชื้อที่คนไข้ได้รับมันดื้อยา จนหมอหาทางรักษาไม่ไหวนั่นแหละ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริง และนับวันจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ จนทางองค์การอนามัยโลก ก็กำลังกังวลว่าสักวันหนึ่ง ที่เชื้อแบคทีเรียดื้อยาหมดทุกตัว มนุษย์เราก็จะล้มตายง่าย ๆ เหมือนสมัยก่อนที่หลุยส์ ปาสเตอร์จะค้นพบยาฆ่าเชื้อนั่นเอง

 

ผลกระทบที่ตามมา

สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างนอกจากการติดเชื้อเฉพาะที่ แล้วลุกลามไปเข้าสู่กระแสเลือด ก็คือ โรคต่าง ๆ ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อที่ปอด การผ่าตัดต่าง ๆ หรือผู้ป่วยเรื้อรัง มะเร็งชนิดต่าง ๆ ก็เสี่ยงจะติดเชื้อ โดยที่ไม่มียาฆ่าเชื้อตัวไหนรักษาได้เช่นกัน เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้ คิดสักนิดว่า “ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราทุกคนจะช่วยกันดูแลโลกของเรา เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้ลูกหลานเราต่อไป”

แชร์ให้เพื่อน