สำรวจตนเอง “คุณแพ้ง่ายหรือไม่? “
เรื่องของการแพ้นั้นไม่เข้าใครออกใครคุณอาจแพ้สารบางชนิดขณะที่คนอื่นๆทั่วไปไม่แพ้ ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังการใช้ยา อาหารหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่เคยกินมาก่อน
การแพ้ยา แพ้อาหารหรือสารเคมีชนิดอื่นๆนั้นเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลในระดับของพันธุกรรม ดีเอ็นเอ เนื่องจากการผลิตยารักษาโรคและอาหาร เวชภัณฑ์ต่างๆ นั้นจะใช้ข้อมูลในการถอดรหัสทางพันธุกรรมของมนุษยชาติที่มีดีเอ็นเอเหมือนกันทั้งหมด 99.6% และเป็นการถอดรหัสพันธุกรรมของมนุษย์เพียงไม่กี่คน พันธุกรรมส่วนใหญ่ถึง 70% ที่ใช้ในการถอดรหัสและรวบรวมข้อมูลพันธุกรรมมนุษย์เป็นชายชาวอเมริกันที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวยุโรปและเชื้อสายแอฟริกันบางส่วน ข้อมูลดังกล่าวนำมาเป็นต้นแบบสำหรับค้นหาวิธีรักษาโรค รวมถึงคิดค้นยา วัคซีนและเวชภัณฑ์ต่างๆ แล้วเราซึ่งเป็นเชื้อสายทางเอเชียละ
สำหรับในปัจจุบันนี้โลกมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วดังนั้นการถอดรหัสและรวบรวมข้อมูลพันธุกรรมมนุษย์มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากขึ้น ที่เรียกว่า “แพนจีโนม” (Pangenome) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการนำไปพัฒนาเทคนิคการรักษาโรคและผลิตยา อาหารและเวชภัณฑ์ที่มีความจำเพาะกับคนไข้ผู้ที่มีความแตกต่างด้านพันธุกรรมมากขึ้นนั่นเอง
ทำไมเวลาเราได้รับยารักษาโรคโดยเฉพาะกลุ่มยาฆ่าเชื้อ (Antibiotic) จากโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่เภสัชกรมักจะต้องถามคุณทุกครั้งว่า”คุณเคยแพ้ยา แพ้อาหารอะไรไหม? ” เพราะว่าในระดับของพันธุกรรมมนุษย์นั้นยังมีอีก 0.4%ที่มีความแตกต่างออกไปจากข้อมูลของการวิจัยนั่นเอง จากข้อมูลที่มีการตีพิมพ์บทความวิชาการในวารสาร Nature และวารสารวิชาการในเครือเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมนี้ถึงความสำเร็จเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์สามารถถอดรหัสพันธุกรรมของจีโนมมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ในปี 2022 นับว่าเป็นเรื่องดีต่อมนุษยชาติเป็นอย่างมากนั่นเอง
เราลองมาสังเกตตนเองว่าเรามีอาการดังต่อไปนี้หรือไม่หลังจากรับประทานยาฆ่าเชื้อ ยาบางชนิด อาหารหรือเวชภัณฑ์บางอย่างเพื่อเป็นข้อมูลให้กับเจ้าหน้าสาธารณสุขเพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าหน้าเภสัชกรหรือแพทย์ผู้ทำการรักษาโรค อาการที่พบได้หลักๆมีดังต่อไปนี้
1.อาการที่เกิดขึ้นทางระบบหายใจได้แก่ ไอมาก แน่น คัดจมูก น้ำมูกไหล เสียงแหบแห้งหรือไม่มีเสียง แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงวี้ด หรือหายใจไม่ออก รู้สึกแน่นที่ลำคอ ระคายเคืองในคอ หลอดลมตีบ
2.อาการทางระบบไหลเวียนโลหิตและหัวใจได้แก่ ใจสั่น หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เจ็บแน่นหน้าอก ความดันโลหิตตก อาจรุนแรงทำให้หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตตามมาได้
3.อาการทางระบบทางเดินอาหารได้แก่ คลื่นไส้อาเจียน ปวดมวนท้อง ถ่ายเหลว
4.อาการทางผิวหนังที่สามารถสังเกตได้จาก ผื่นคัน ผื่นลมพิษ หรือผิวแดงที่หน้า ทั้งตัว หน้าบวม ปากบวม ตาบวม เป็นต้น
หากพบอาการดังกล่าวที่พูดมาต้องทำอย่างไรบ้าง?
1.ตั้งสติ ขอความช่วยเหลือจากบุคคลรอบข้าง
2.ให้นั่งหรือนอนพักในท่าที่สบาย หายใจสะดวก
3.หากมียาแก้แพ้ให้รีบรับประทานยาให้เร็วที่สุดและรีบไปโรงพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด
4.การรับประทานยาช่วยดูดซับสารพิษหากเรารับประทานอาหารดังกล่าวอาจเจือปนสารพิษก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง