เกษียณโสดไม่หวั่น หมั่นรักษ์สุขภาพ ในยุค 4.0
การเกษียณจากการทำงานย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อถึงวัยอันควรซึ่งประเทศไทยกำหนดให้อายุครบ60ปีบริบูรณ์ การเกษียณแบบมีคู่และการเกษียณแบบโสดมีความแตกต่างกันในแง่ของการใช้ชีวิตแต่มีความเหมือนกันในด้านการเตรียมความพร้อมก่อนการเกษียณ ขณะที่การเกษียณแบบมีคู่มักจะมีลูกหลานคอยดูแลเยี่ยมเยียนแต่การเกษียณแบบชาวโสดนั้นจะขาดสิ่งนี้ไปแบบสิ้นเชิง จากตัวเลขประชากรที่เป็นโสดของประเทศไทยประมาณ 17 ล้านคน นับเป็น 40%ของวัยทำงานเลยทีเดียว เราจะหวังพึ่งสวัสดิการต่างๆ ก็ไม่เพียงพอต่อภาวะเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นเรามาดูผลกระทบและเตรียมความพร้อมในการเกษียณของชาวโสดในมิติ 6ด้านกันเถอะ
1.ด้านจิตใจ
ถือว่ามีผลกระทบจากการเกษียณค่อนข้างมากเนื่องจากกิจวัตรประจำวันที่เคยทำลดลงไปอย่างมาก ว่างมากขึ้น รู้สึกตัวเองด้อยค่า หงุดหงิด ซึมเศร้า คิดว่าตัวเองหมดความหมาย ขาดความพึงพอใจในชีวิตปัจจุบัน
การเตรียมความพร้อมของชาวเกษียณโสด
1.1คนโสดสร้างกำลังในการเผชิญหน้ากับวัยเกษียณ ยอมรับหลักธรรมชาติ สรรพสิ่งเกิดขึ้นอยู่และดับไป ใช้หลักธรรมเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ เกิดมาคนเดียวจากโลกนี้ไปคนเดียว
1.2มองโลกหลายแง่มุม รู้จักการปล่อยวาง ใช้สติและรู้จักควบคุมตนเอง
1.3พบปะเพื่อนต่างวัยโดยเฉพาะวัยเด็กที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี่ จะช่วยให้ผ่อนคลายได้
1.4ติดตามข่าวสาร เหตุการณ์บ้านเมืองเพื่อจะได้เป็นคนเกษียณโสด ที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์รอบโลก ไม่ตกเทรนด์
2.ด้านร่างกาย
ร่างกายเริ่มมีความเสื่อมของอวัยวะเช่น กระดูกเสื่อม การเคลื่อนไหวลำบาก ระบบประสาทเสื่อมลง ยอมรับความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ทำให้ขาดการดูแลสุขภาพตนเอง การเตรียมความพร้อมของร่างกายควรเริ่มตั้งแต่อายุ40ปี เพื่อใม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา
การเตรียมความพร้อมของชาวเกษียณโสด
2.1ติดตามตรวจสุขภาพประจำปี อย่างน้อยปีล่ะ1ครั้ง เพื่อประเมินและวางแผนการดูแลสุขภาพในอนาคต
2.2การรับประทานอาหารให้ครบหลัก 5หมู่ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอวันล่ะ8-10แก้วตามสภาวะของร่างกาย งดอาหารประเภทชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง เพิ่มอาหารแคลเซียมสูงเพื่อช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง กินอาหารทที่มีโอมิก้า3 เพื่อบำรุงสมอง
และกระตุ้นสมองโดยเล่นเกมเกี่ยวกับตัวเลข
2.3ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันล่ะ 8ชั่วโมง
3.ด้านเศรษฐกิจ การเงิน
ทำให้มีรายได้น้อยลง รายจ่ายเพิ่มขึ้น รายจ่ายที่ต้องดูแลสุขภาพมากขึ้น การวางแผนด้านการเงินที่ดีควรเริ่มต้นตั้งแต่การหาเงินมาได้และวางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุม และต้องตระหนักมากขึ้นเมื่อตัดสินใจที่จะเกษียณโสด
การเตรียมความพร้อมของชาวเกษียณโสด
3.1วางแผนด้านรายรับรายจ่ายและเงินเก็บเพื่อการเกษียณให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายแต่ล่ะเดือนในวัยเกษียณโสด
3.2เตรียมหาแหล่งเงินทุนหรือรายได้สำรอง ตั้งแต่ขณะที่ยังมีตำแหน่งในหน้าที่งานประจำอยู่
3.3สะสมสินทรัพย์สำรองเพื่อวัยเกษียณโสดเช่น
ที่ดิน ทองคำ หุ้น กองทุนหุ้น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ โดยเลือกให้เหมาะกับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้
4.ด้านกิจกรรมยามว่าง
ทำให้มีเวลาว่าง 6-8ชั่วโมงต่อวัน เกิดความเครียดและเบื่อหน่ายได้ง่าย
การเตรียมความพร้อมของชาวเกษียณโสด
4.1ทำงานอดิเรกที่ตนเองชื่นชอบเช่นการเขียนหนังสือ ทำสิ่งประดิษฐ์ ยูทูปเบอร์
4.2การเล่นกีฬายามว่าง เช่น เดินออกกำลัง ว่ายน้ำ เปตอง โยคะ
4.3อ่านหนังสือออนไลน์ต่างๆ เช่น นิยาย การลงทุนความเสี่ยงต่ำ
5.ด้านสังคมและสัมพันทภาพในครอบครัว
จะเห็นได้ว่าบทบาททางสังคมลดน้อยลง อำนาจที่เคยมีหมดไป พบปะผู้คนน้อยลง มีความเหงา ว้าเหว่
การเตรียมความพร้อมของชาวเกษียณโสด
5.1ไปมาหาสู่ เยี่ยมเยียนและติดต่อสื่อสารถึงกันเสมอแม้ทางออนไลน์
5.2เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ครอบครัวเดิมและเด็กรุ่นใหม่
6.ด้านที่อยู่อาศัย
เนื่องจากที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตจึงควรวางแผนตั้งแต่วัยกลางคนว่าจะอาศัยอยู่ที่ใหนในวัยเกษียณโสด
การเตรียมความพร้อมของชาวเกษียณโสด
6.1สถานที่ควรสะดวกในการเดินทาง ไม่ไกลจากแหล่งชุมชนเดินทางได้ง่าย
6.2เนื่องจากชาวเกษียณโสดอาจต้องอยู่คนเดียวเป็นอาจต้องมองหาสถานที่พักคนชราไว้สำรอง
6.3สภาพที่อยู่อาศัย ควรเป็นชั้นเดียว พื้นไม่ลื่น เตรียมห้องน้ำมีที่ยึดเกาะ อาจต้องติดตั้งวงจรปิดเพื่อให้พี่น้องได้ติดตามการเคลื่อนกรณีมีอุบัติเหตุสามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที
การเข้าสู่วัยเกษียณของชาวโสด เป็นการเตรียมความพร้อมกับร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปและด้านจิตใจอาจไม่ต้องปรับมากเนื่องจากชาวโสดอยู่คนเดียวมานาน แต่การเตรียมความพร้อมก็จะช่วยลดความเครียด ความกังวล ปรับทัศนคติที่ดีต่อการเป็นผู้สูงอายุในอนาคต ใช้ชีวิตหลังเกษียณของชาวโสดอย่างมีความสุขในยุคของเทคโนโลยี่ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
รายการอ้างอิง
รายงานการวิจัยของ เพ็ญประภา เบญจวรรณ ศสม.การเตรียมความพร้อมก่อนเกษียณอายุ
ติดตามบทความอื่นเพิ่มเติมได้ที่ healthybestcare.com