6 ประโยชน์ของการไว้ผมยาว ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

แชร์ให้เพื่อน

6 ประโยชน์ของการไว้ผมยาว ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

     สาวๆที่ไว้ผมยาวนั้นเป็นเทรนสำหรับการประกวดนางงาม​ในเวทีสำหรับการประกวดความงามในระดับอนุบาล โรงเรียนประถม มัธยม​ มหาวิทยาลัย​ เทศกาล​งานประจำปี (นางนพมาศ นางสงกรานต์​ นางเทียน แม้แต่นางตานี นางไม้เองก็ยังผมยาว)​  นางสาวไทย นางงามจักรวาล​และอีกหลายๆเวที อย่างนางงามทิฟฟานี่​ของสาวประเภทสอง เราคงไม่เถียงว่าผู้ที่เข้ารับการคัดเลือกเข้ากองประกวดนั้นล้วนมีผมยาวสลวยเกือบ 99.99%ทั้งสิ้น ผมยาวช่วยเรื่องความงามได้อย่างไร ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะ ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อ เพราะในเวทีความงามยืนยันแล้วนั่นเอง

    เราลองมาดูกันเลยคะว่าการไว้ผมยาวนั้นมีข้อดีต่อภาวะสุขภาพและความงามอย่างไรบ้าง?

1.การไว้ผมยาวจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงที่ศีรษะ​รวมถึงใบหน้าได้ดีขึ้นนั่นเอง ช่วยได้ยังงัย ลองคิดดูกิจกรรม​สำหรับผู้หญิงผมยาวนั้นมีอะไรกันบ้างที่ช่วยกระตุ้นนวดผ่อนคลายหนังศีรษะ​ได้บ่อยๆเช่น การหวีผม การเกานวดหนังศีรษะ​ขณะสระ หรือนวดด้วยครีมบำรุงผม กิจกรรมพวกนี้ช่วยกระตุ้นให้เลือดลมสามารถเลี้ยงที่ศีรษะ​และใบหน้าได้เป็นอย่างดีมากเลยทีเดียว จึงช่วยให้ใบหน้ามีความอ่อนเยาว์​และชลอวัยได้นั่นเอง
2.การมัดผม การเปียกผม การม้วนผม ช่วยให้ดึงหนังศีรษะ​ตึง รวมมาถึงการดีงผิวหน้าให้ตึงขึ้นนั่นเอง เรามาลองสะเกตการผ่าตัดด้านความงามกันนะคะ มักจะผ่าตัดและดึงใบหน้าบริเวณ​ไรผมนั่นเอง
วิธีการกระตุ้นเลือดไปเลี้ยงและดึงหน้าให้ดูเต่งตึงด้วยการมัดผมทำได้ง่ายมาก แค่คุณ​หวีผมให้เรียบแล้วก้มหน้าโน้มตัวลงแล้วรวบผมขึ้นที่กลางหัวคล้ายกุมารทองเท่านี้คุณ​ก็ใช้ประโยชน์​จากผมยาวในการช่วยให้ดึงผิวหน้าให้เต่งตึงโดยไม่ต้องเสียเงินและเจ็บตัวแต่อย่างใดแถมช่วยคลายร้อนได้อีกด้วย

3.ผู้หญิงผมยาวนั้นเป็นจุดสนใจสำหรับผู้คน ทำไมถึงว่าผมยาวเป็นจุดสนใจละ เพราะผมยาวคุณสามารถตกแต่งที่เส้นผมได้เยอะกว่าคนผมสั้น เช่น การรวบผมแบบผมแกะ การเปียผมที่เป็นลวดลายต่างๆ ลองสังเกตชาวต่างชาติ​ที่มีผมหยิกหยองเค้ามักจะเปียผมเล็กๆซึ่งจะช่วยดึงให้หนังศีรษะ​ตึง ผลพลอยได้ที่ตามมาคือผิวหน้าตึง ช่วยชลอวัยในตัวนั่นเอง

4.คนผมยาวมักมีคนมาคอยนวดหนังศีรษะ​ให้ในรูปแบบการช่วยหาเหา กรณีที่มีเหา  การถักผมเปีย รวมถึงลูกๆในบ้านที่ช่วยดึงเส้นผมขณะอุ้มหรือให้กินนมอีกด้วย

5.การไว้ผมยาวเป็นจิตวิทยา​ช่วยกระตุ้นในการดูแลตนเองด้านความสวยความงาม ลองสังเกต​ตามร้านทำผมที่มีอยู่เยอะแยะมากมาย  กิจกรรมตามร้านทำผมนั้นช่วยกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณ​ศีรษะ​และใบหน้าทั้งสิ้นเช่น การสระไดผม การม้วนดัดผม การเปียผม การเปลี่ยนสีผม รวมถึงการตัดเล็มปลายผมอีกด้วย

6.การไว้ผมยาวเปรียบเสมือนการใช้น้ำหนักของผมช่วยดึงถ่วงหนังศรีษะ​ของคุณไว้ตลอดเวลา ยิ่งคุณมีผมยาวและหนักเท่าไหร่ก็ยิ่งช่วยดึงถ่วงหนังศีรษะ​ไว้เท่านั้น รวมถึงขณะเดินหรือสะบัดผมก็ช่วยนวดหนังศีรษะ​ได้เช่นกัน จึงทำให้ดูอ่อนวัยกว่า ผิวหนังบริเวณ​ใบหน้าเต่งตึงขึ้นได้อีกด้วย

   สาวๆท่านใหนที่ไว้ผมสั้นมานานแล้วลองเปลี่ยน ลุคมาไว้ผมยาวดูนะคะแล้วคุณ​ลองสังเกต​ดู​ความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าว่าเต่งตึงขึ้นจริงไม่ ตามที่เขียนมาไหม เผื่อมีหนุ่มๆหรือมีแมวมองคุณมากขึ้นนั่นเองคะ หรือสำหรับหนุ่มๆที่อ่านบทความนี้ลองไปเล่าบอกต่อแฟนสาวให้นำเทคนี้ไปใช้ดู คุณอาจมีน้องสาวหรือลูกสาวคนโตแทนภรรยาคนเก่าก็ได้นะคะ

แชร์ให้เพื่อน

อะไรจะเกิดขึ้น  หากอุณหภูมิ​โลกเพิ่มสูงขึ้น 1.5 องศาภายในปี 2027

แชร์ให้เพื่อน

อะไรจะเกิดขึ้น  หากอุณหภูมิ​โลกเพิ่มสูงขึ้น 1.5 องศาภายในปี 2027

    “น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย” เป็นสำนวนไทยที่ใช้เปรียบเปรย​เกี่ยวกับคำพูดคำจา หมายความว่า คำพูดที่ไพเราะอ่อนหวาน ซึ่งถูกใจผู้ฟัง แต่กลับเป็นโทษ​เป็นภัย ขณะที่คำพูดที่ตรงไปตรงมาแบบขวานผ่าซาก อาจไม่ถูกใจผู้ฟัง แต่ไม่เป็นพิษ​เป็นภัย อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้ฟังในการพินิจพิจารณา​ว่าชอบแบบใหน ไม่เกี่ยวข้องกับปลาแต่อย่างใดนะคะ
    เรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า อะไรจะเกิดขึ้นหากโลกมีอุณหภูมิ​เพิ่มสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส​  ก็นักวิทยาศาสตร์​จากองค์การอุตุนิยมวิทยา​โลกเค้าคาดการณ์​ไว้ในปี 2027 ก็เหลือเวลาอีกสี่ปี่ข้างหน้า ปัจจัยที่ทำให้เกิดโลกร้อนก็มาจากการปล่อยก๊าซ​เรือนกระจก​จากการทำกิจกรรม​ต่างๆของมนุษย​์ร่วมกับปรากฏการณ์​เอลนีโญ เอลนีโญเป็นรูปแบบสภาพภูมิอากาศที่มักจะเกี่ยวข้องกับการที่อุณหภูมิ​ทั่วโลกปรับ​ตัวสูงขึ้น รวมถึงความแห้งแล้งที่จะเกิดขึ้นบางพื้นที่ขณะที่เกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ในส่วนอื่นๆของโลกนั่นเอง


    ผลกระทบเกิดอะไรขึ้นได้เช่น แนวปะการังอาจตายลง แผ่นน้ำแข็งทั่วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น เกิดปัญหาสภาวะอากาศ​สุดขั่วต่างๆได้แก่ ภัยแล้ง ไฟป่า น้ำท่วมรุนแรง รวมถึงปัญหา​ขาดแคลนอาหารตามมาจากภัยพิบัติ​ดังกล่าว ส่งผลให้เกิดอุณหภูมิ​ร้อนขึ้นรวมถึงไทยด้วยที่ทำสถิติ​พุ่งสูง 45 องศาเซลเซียส​ด้วยเช่นกัน
     ปัญหา​อุณหภูมิ​ที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน​เช่นการขาดแคลนพลังงานและสร้างความเสียหาย​แก่ระบบสาธารณูปโภค​และเกิดโรคลมแดดทำให้เสียชีวิตนั่นเอง
       โรคลมแดดหรือฮีทสโตรค( Heat Stroke) เป็นภาวะวิกฤติ​ที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมความร้อนภายในร่างกาย​ได้ เกิดอุณหภูมิ​ของร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ มีอาการปวดศีรษะ​หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ หากไม่ได้รับการแก้ไขอาจทำให้เสียชีวิตตามมาได้
    อันตรายของโรคลมแดดมักเกิดกับเด็กเล็ก คนชรา กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อ้วนหรือผอมเกินไป  พักผ่อน​ไม่เพียงพอ  กลุ่มที่ทำกิจกรรม​กลางแดด กลุ่มที่อยู่ในห้องเย็น​แล้วเผชิญกับแดดร้อนจัด และกลุ่มที่กินแอลกอฮอล์​เป็นต้น
    แล้วเราจะปฐมพยาบาลอย่างไรดีละ เบื้องต้นให้รีบเข้าร่ม อากาศ​ถ่ายเทสะดวก คลายเสื้อผ้าให้หลวม นอนราบยกขาสูง ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัว ดื่มน้ำเปล่ามากๆ และรีบนำส่งโรงพยาบาล
  เราป้องกันโดยหลีกเลี่ยงอยู่กลางแดดจัด ใส่เสื้อผ้าโปร่ง เบาสบาย จิบน้ำบ่อยๆ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม​แอลกอฮอล์​และชากาแฟ และมีน้ำตาลสูง ระวังเรื่องการจอดรถทิ้งกลางแดดขณะมีผู้โดยสารโดยเฉพาะเด็กและคนชรา ใช้ร่มกันแดด แว่นตา หมวกปีกกว้าง เพิ่มความระมัดระวังในกลุ่มที่มีโรคประจำตัว​

นี่ขนาดเพิ่งซ้อมเผชิญกับความร้อนในเดือนเมษา​ยนมาหยกๆ แล้ว ถ้าเกิดร้อนขึ้นอีกเราคงต้องเตรียมรับมือเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์​ของมนุษ

แชร์ให้เพื่อน

อย่าหาทำ ถ้าไม่อยากป่วยจิตเภท

แชร์ให้เพื่อน

อย่าหาทำ ถ้าไม่อยากป่วยจิตเภท

จาก​สถานการณ์​ใน​ปัจจุบัน​นี้ เด็กรุ่นใหม่มีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น อยากลองในสิ่งที่ไม่รู้ หากไม่มีผู้ใหญ่ควรให้คำแนะอาจพบปัญหาจิตเภท​ตามมาได้ จากกรณีเปิดกัญชาเสรีทำให้ประชาชน วัยรุ่น คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรม​ด้านความอยากรู้​ อยากเห็นและทดลองสิ่งใหม่ๆ จึงเป็นดาบสองคม แม้ว่าประเทศเราเพิ่งเปิดเสรีด้านกัญชามาเมื่อไม่นาน ฉะนั้นผลกระทบ​จึงอาจยังไม่ปรากฎ​ให้เห็นชัดเจน ต้องใช้เวลาอีกสักพัก
หากเราย้อนกลับไปดูกลุ่มประเทศที่เปิดเสรีด้านกัญชามานานแล้วก็พบว่าปัญหาการเสพกัญชานั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคด้านจิตเภท​โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวนั่นเอง

โรคจิตเภท​(Schizophrenia) เป็นกลุ่มอาการทางจิตที่มีความผิดปกติด้านความคิด การรับรู้ที่ไม่ตรงตามความเป็นจริงส่งผลกระทบ​ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน​ เช่น การดูแลตัวเอง มักพบในช่วงวัย14-16ปี สาเหตุเกิดได้จากหลายสาเหตุ​ได้แก่ จากพันธุกรรม​หากมีประวัติ​ทางครอบครัว​เป็นโรคจิตเภท​มักมีโอกาสเกิดได้สูง และจากภาวะความเครียดในการดำเนินชีวิต​ก็เป็นตัวกระตุ้น​ให้เกิดโรคจิตเภท​ได้เช่นเดียวกัน การแสดงอารมณ์​ทางลบ การตำหนิ แสดงท่าทีไม่เป็นมิตรหรือจู้จี้​มากเกินไป​ทำให้มีอาการกำเริบได้ และจากข้อมูลทางการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเสพกัญชาทำให้เกิดโรคทางจิตเภท​ได้เช่นกัน

อาการของโรคทางจิตเภทนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ

1.กลุ่มที่เกินคนปกติธรรมดา​มักมีอาการหลงผิดคิดว่าคนจะมาทำร้าย คิดว่าตนเองนั้นมีพลังวิเศษ​ในตัว
มีประสาทหลอน หูแว่ว เห็นภาพหลอน​พูดคนเดียว ยิ้มคนเดียวหัวเราะคนเดียว

2.กลุ่มที่บกพร่องกว่าคนธรรมดา​มักมีอาการเก็บตัว ซึม ไม่อยากพบปะสนทนา​ ไม่สนใจดูแลตนเอง เฉื่อยชา ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์​พูดน้อย พูดช้า ขาดการปะติดปะต่อ ไร้อารมณ์​ สีหน้าเฉยเมยไม่ยินดียินร้าย​ ไม่ทำงานทำการนั่งเฉยๆ ผลการเรียนหรือผลการทำงานตกต่ำ

การดูแลรักษา​ผู้ป่วยจิตเภท​เน้น เข้าใจโรคที่ผู้ป่วยเป็น ให้อภัย ไม่โต้เถียงด้านอาการเจ็บป่วย ใช้ความอดทน เสนอการช่วยเหลือ กระตุ้นแต่ไม่บังคับเพราะอาจทำให้อาการกำเริบขึ้นได้ ไม่ควรตำหนิหากไม่จำเป็น

จะเห็นได้ว่าโรคทางจิตเภท​นั้นมีผลกระทบต่อผู้ป่วยและครอบครัว สังคมตามมาอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการเสพกัญชามีโอกาสเสี่ยงต่อการป่วยทางจิตเภท​ได้มากกว่าคนปกติ เราจึงควรหลีกเลี่ยง​หากไม่จำเป็น รวมถึงการให้ข้อมูลกับลูกหลานหรือวัยรุ่นเกี่ยวกับผลกระทบจากการเสพกัญชาเนื่องจากเป็นกลุ่มสารเสพติด​ชนิดหนึ่งนั่นเอง

 

แชร์ให้เพื่อน

ชาใบหม่อน  ประโยชน์​ที่บางคนยังไม่รู้

แชร์ให้เพื่อน

ชาใบหม่อน  ประโยชน์​ที่บางคนยังไม่รู้

    หลังจากเราได้รู้ประโยชน์​ 7 ข้อของไหมดักแด้แล้วในบทความที่แล้ว วันนี้เรามาดูประโยชน์ของใบหม่อนกันบ้าง ว่ามีประโยชน์​ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
ใบหม่อนนั้นนอกจากจะเป็นอาหารของตัวหนอนไหมแล้วเรายังสามารถนำใบหม่อนมาตากแห้ง ชงดื่มเป็นชาใบหม่อนมีรสชาติดี หอมใบหม่อน มีรสฝาดเล็กน้อย ในปัจจุบันนี้มีการพัฒนา​เป็นชาใบหม่อนพร้อมชงดื่มได้เลย นับว่าเป็นเครื่อง​ดื่มที่มีฤทธิ์​ต่อต้้านอนุมูล​อิสระที่มีประโยชน์​หลายอย่างในด้านการป้องกันปัจจัย​เสี่ยงของการเกิดโรคบางชนิด
    นอกจากเราใช้ใบหม่อนชงเป็นเครื่องดื่ม​แล้วเราสามารถ​เก็บลูกหม่อนมารับประทานมีรสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน มีสารต้าน​อนุมูล​อิสระสูงช่วยป้องกันโรคมะเร็ง​ โรคหัวใจ และวิตามินบี 6 ช่วยลดการอีกเสบของสิว บำรุงเลือด ตับและไต ช่วยให้เส้นเลือดมีความแข็ง​แรง  ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและช่วยในการลดน้ำหนัก​สำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักอีกด้วย หากใครที่มีประวัติแพ้ลูกฟิกให้ระมัดระวังในการรับประทานเพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
  เดี่ยวนี้เราสามารถหาซื้อชาใบหม่อนตามท้องตลาดมาเป็นชาพร้อมดื่ม หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพงมีสรรพคุณ​ด้านต่อต้าน​อนุมูล​อิสระ​เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรักษาสุขภาพ​มีประโยชน์​ดังต่อไปนี้คือ
1.การดื่มชาใบหม่อนเป็นประจำ​จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
2.ช่วยป้องการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเนื่องจากไม่มีไขมัน
3.ช่วยควบคุม​ระดับน้ำ​ตาลในเลือดเนื่องจากเป็นชาที่ไม่มีความหวาน
4.ช่วยให้เกิดอัลไซเมอร์​ช้าลงได้
5.ช่วยให้นอนหลับ​ได้ดีขึ้น และเป็นยาช่วยระงับประสาท
6.ช่วยขับเหงื่อ ลดไข้ แก้ตัวร้อน แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ และเป็นยาระบายอ่อนๆ
    ถึงแม้ว่าชาใบหม่อนหรือลูกหม่อนมีประโยชน์​มากมายแต่การรับประทานอาหารให้มีความหลากหลายและครบหลักห้าหมู่และจำกัดอาหารเฉพาะโรคก็ช่วยให้มีสุขภาพ​ดีและแข็งแรงขึ้นได้

แชร์ให้เพื่อน

ตรวจความเครียดด้วยเส้นผม

แชร์ให้เพื่อน

ตรวจความเครียดด้วยเส้นผม

โรคหัวใจขาดเลือด หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Ischemic heart disease เป็นโรคที่เป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของโลก สาเหตุหลัก ๆ ที่เรารับรู้มาก็คือ เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ หรือแม้แต่ความเครียด ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่คาดว่าจะมีผลต่อโรคหัวใจขาดเลือดเช่นกัน

ซึ่งนักวิจัยมหาวิทยาลัยลินเชิบปิ้ง ในประเทศสวีเดนได้ทำการตรวจวัดหา “ฮอร์โมนแห่งความเครียด” หรือ ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol ) จากเส้นผม จริง ๆ แล้วฮอร์โมนตัวนี้หลั่งมาจากต่อมหมวกไต หน้าที่หลัก ๆ ของมันก็คือ เผาผลาญสารอาหาร ลดการอักเสบ รักษาระดับความดัน และน้ำตาลในเลือด โดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนตัวนี้เพิ่มขึ้นเมื่อร่างกายเราถูกกระตุ้นด้วยความเครียด

หลาย ๆ คนอาจจะตั้งข้อสงสัยว่า ความเครียดเป็นผลให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดจริงหรือ ??? คนทั่วไปก็อาจจะตอบว่า ใช่ เพราะเราเคยรับรู้มาแบบนั้น แต่ก็ยังไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้ว่า ความเครียดมีผลต่อโรคหัวใจขาดเลือดจริง ซึ่งทางทีมวิจัยค้นพบว่าฮอร์โมนตัวนี้มีค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการโรคหัวใจขาดเลือด โดยทางทีมวิจัยได้ทำการตรวจวัดฮอร์โมนคอร์ติซอลจากเส้นผมของผู้เข้าร่วมการวิจัย…..มาถึงตรงนี้ก็ขอชมเค้าเลยว่า เริดส์!!!

จริง ๆ ร่างกายเราจะเกิดความเครียดเมื่อเจอสิ่งกระตุ้น ทั้งนี้ก็เพื่อพร้อมต่อสู้ หรือพร้อมหนีศัตรูเหล่านั้น และเมื่อร่างกายเกิดการกระตุ้นอย่างฉับพลัน ก็อาจทำให้เกิดอาการช็อค เจ็บหน้าอก หรือหมดสติ ถ้าใครยังนึกไม่ออก ก็ให้ลองนึกถึงบทละครที่เวลาพ่อแม่พระเอก หรือนางเอกอยากให้ลูกแต่งงาน แล้วก็พลอยเจ็บหน้าอกกะทันหัน เพียงเพราะลูกขัดใจ อุ๊ปส์!!!😅

แต่ที่ทีมวิจัยเค้าเก็บตัวอย่าง ไม่ใช่จากความเครียดฉับพลันแบบในทีวีนะจ๊ะ แต่เค้าตรวจวัดความเครียดแบบเรื้อรัง ซึ่งตรงนี้ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนนั่นเอง หลักการตรวจวัดแบบนี้ก็จะใช้วิธีเดียวกับการดูวงปีของต้นไม้ ซึ่งทางทีมวิจัยได้ตรวจวัดในเส้นผมขนาด 1-3 เซ็นติเมตร หรือมีค่าเทียบเท่ากับเวลาหลาย ๆเดือน

ทีมวิจัยได้วิเคราะห์ผู้ป่วยหญิงและชายจำนวน 174 คนที่มีอายุในช่วงวัยทำงาน และป่วยอยู่ในโรงพยาบาลด้วยโรคหัวใจขาดเลือด เค้าตรวจพบว่าจำนวนคอร์ติซอลที่เพิ่มขึ้นในเส้นผม มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับโรคหัวใจขาดเลือด และมีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนมากกว่าภาวะเสี่ยงอื่น ๆ เช่นเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ต้องบอกเลยว่า เจ๋งอ่ะ

ความเครียดมีทั้งความเครียดที่เป็นผลจากสิ่งกระตุ้นภายในร่างกาย เช่นการมีโรคต่าง ๆ หรือความเครียดจากสิ่งกระตุ้นภายนอก ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากภาวะเงินไม่พอใช้ เครียดจากการเรียน เครียดเรื่องแฟน ต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งบางทีตัวเราเอง ก็อาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ว่าเราเครียดอยู่ และบางทีเรารู้ตัวอีกทีก็เมื่อตอนที่เราเก็บไปฝัน เช่น ฝันว่าไปสอบไม่ทัน หรือฝันเห็นหวย อันหลังแค่ล้อเล่น จะได้ไม่เครียดน้าาาา 😀😀

เครดิตข้อมูลจากงานวิจัยประเทศสวีเดน www. forskning.se

แชร์ให้เพื่อน

หายนะ จากการใช้ยาฆ่าเชื้อ แบบไม่ระวัง

แชร์ให้เพื่อน

หายนะ จากการใช้ยาฆ่าเชื้อ แบบไม่ระวัง

สมัยก่อน หลาย ๆ ครั้งจะเห็นพี่น้อง เพื่อนฝูง หวังรือคนรอบตัวบ่นว่า “เจ็บคอ ไปหายาฆ่าเชื้อมากิน” ซึ่งเป็นอะไรที่ได้ยินบ่อยจนชินหูมาก ฟังแล้วก็รู้สึกเฉย ๆ เออ ก็เค้าป่วย เค้าก็ต้องไปหาหมอ หรือไม่ก็ไปซื้อยาฆ่าเชื้อมากินหรือเปล่า ??? คล้าย ๆ จะสมเหตุสมผล แต่เมื่อย้ายมาอยู่ยุโรป การจะได้ยาฆ่าเชื้อมากิน เป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก ต่อล้อต่อเถียงกับหมอก็แล้ว เค้าก็ไม่ให้ จริง ๆ ไม่ใช่ว่าหมอเค้าจะอยากกวนประสาทเราหรอกนะ แต่เพราะประเทศแถบยุโรป เค้ามีการจำกัดและควบคุมการใช้ยาฆ่าเชื้ออย่างเคร่งครัด เพราะฉะนั้นหมอจะสั่งยาฆ่าเชื้อให้คนไข้แต่ละที ต้องมีเหตุผลที่หนักแน่นมารองรับ และเราไม่สามารถไปหาซื้อยาฆ่าเชื้อมากินเอง โดยปราศจากใบสั่งยาจากหมอ จึงทำให้บ้านเค้ามีโอกาสเจอเชื้อโรคที่ดื้อยาน้อยกว่าบ้านเรามาก บ้านเราในที่นี้ผู้เขียนอ้างถึงประเทศในแถบเอเชีย

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก ยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ (ภาษาอังกฤษ : Antibiotic) เป็นยาที่ถูกใช้ในการรักษา และป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยอาจออกฤทธิ์ฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสอง ส่วนยาที่ใช้ฆ่าเชื้ออื่น ๆ ไม่รวมอยู่ในกลุ่มนี้

นอกจากการใช้ยาฆ่าเชื้อในคนแล้ว การใช้ในสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะอุตสาหกรรมเลี้ยง วัว หมู ไก่ ก็ใช้กันมากไม่แพ้กัน ทั้งนี้ก็ใช้เพื่อป้องกันหรือรักษาสัตว์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าใช้เพื่อไม่ให้สัตว์ตาย เพื่อป้องกันการขาดทุนของบริษัท
ใช้ยาฆ่าเชื้อ แล้วเกิดอะไรขึ้น??

เมื่อเราใช้ยาฆ่าเชื้อไม่ว่าในคน หรือสัตว์ บางส่วนก็เอาไปใช้ฆ่าเชื้อในร่างกาย บางส่วนก็ถูกปล่อยออกมาทางปัสสาวะ หรืออุจจาระ หลังจากนั้นเราก็ล้างมูลต่าง ๆ เหล่านี้ลงพื้นดิน หรือเอามูลต่าง ๆ เหล่านี้ไปทำปุ๋ย แล้วเอามาปลูกผัก ผลไม้ รับประทานต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ ยาฆ่าเชื้อที่ปะปนมาบนดิน หรือในปุ๋ย ก็ถูกชะล้างไปยังแม่น้ำลำคลอง ไปอาศัยอยู่ตามสิ่งแวดล้อมแถวนั้น และเจ้าตัวแบคทีเรียที่อาศัยอยู่แถว ๆ นั้น ก็พยายามพัฒนาตัวเองเพื่อให้อยู่รอด แหม!!! ขนาดมนุษย์เองก็ยังพยายามปรับตัวเพราะกลัวตาย แล้วทำไมแบคทีเรียจะไม่กลัวตายหล่ะจริงมั้ย ??

วันหนึ่งชาวไร่ ชาวนา เดินไปสะดุดกิ่งไม้ ก็ได้แผลกลับมาพร้อมกับของแถม กับเชื้อที่เคยชินกับยาที่ถูกปล่อยลงสู่ธรรมชาติ ปกติเมื่อร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย ร่างกายเราก็พยายามต่อต้านแหล่ะ แต่นี่ร่างกายต้านไม่ไหว แผลก็อักเสบลุกลามไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายไปหาหมอ หมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อ ให้ไปให้มาก็เสียชีวิต สุดท้ายก็อาจจะจบลงที่หมอรักษาไม่ดี หมอเลี้ยงไข้ หมอไม่ใส่ใจคนไข้ 30 บาท อะไรก็ว่าไป ก็แล้วแต่ใครจะว่าอะไรก็ว่ากันไป แต่ความจริง ก็คือความจริง เชื้อที่คนไข้ได้รับมันดื้อยา จนหมอหาทางรักษาไม่ไหวนั่นแหละ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริง และนับวันจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ จนทางองค์การอนามัยโลก ก็กำลังกังวลว่าสักวันหนึ่ง ที่เชื้อแบคทีเรียดื้อยาหมดทุกตัว มนุษย์เราก็จะล้มตายง่าย ๆ เหมือนสมัยก่อนที่หลุยส์ ปาสเตอร์จะค้นพบยาฆ่าเชื้อนั่นเอง

 

ผลกระทบที่ตามมา

สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างนอกจากการติดเชื้อเฉพาะที่ แล้วลุกลามไปเข้าสู่กระแสเลือด ก็คือ โรคต่าง ๆ ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อที่ปอด การผ่าตัดต่าง ๆ หรือผู้ป่วยเรื้อรัง มะเร็งชนิดต่าง ๆ ก็เสี่ยงจะติดเชื้อ โดยที่ไม่มียาฆ่าเชื้อตัวไหนรักษาได้เช่นกัน เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้ คิดสักนิดว่า “ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราทุกคนจะช่วยกันดูแลโลกของเรา เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้ลูกหลานเราต่อไป”

แชร์ให้เพื่อน

สารพิษในอาหาร ใครไม่อ่าน ถือว่าพลาด

แชร์ให้เพื่อน

สารพิษในอาหาร ใครไม่อ่าน ถือว่าพลาด

ตอนสมัยเด็ก ๆ เคยได้ยินว่าคนกินอาหารบางอย่างแล้วตาย เราก็คิดว่าเป็นแค่ข่าวลือ หรือเป็นเรื่องหลอกเด็กซึ่งอาหารบางอย่างเราก็เคยกินต่อ ๆ กันมา จากรุ่นสู่รุ่น แต่ก็ไม่เคยเห็นใครเป็นอะไร แต่พอวันหนึ่งเมื่อตัวเราเอง กินอาหารแล้วคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เราก็เหมารวมว่าอาจเกิดจากความไม่สะอาดของอาหาร ซึ่งบางครั้งก็อาจจะถูก เพราะอาการดีขึ้น ในขณะที่เราเห็นบางคนนอกจากมีอาการปวดท้อง ท้องเสียแล้ว ยังลามไปพังถึงตับ หรือไต น่ากลัวเข้าไปอีก !!!

สารพิษที่ปะปนในอาหารนอกจากสารพิษที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้กำจัดวัชพืช หรือแมลงแล้ว ยังมีสารพิษที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ พิษแต่ละอย่างก็มีตั้งแต่เบา ๆ ไปจนถึงอาการขึ้นรุนแรงมาก ไปจนถึงขั้นโคม่า และเสียชีวิต เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ถึงอาหารการกิน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และนี่คือตัวอย่างอาหารที่มีสารพิษตามธรรมชาติปะปนมา


1. เห็ด

เป็นอาหารที่เรานิยมกินกัน สามารถหาได้ตามธรรมชาติแบบฟรี ๆ ซึ่งเห็ดที่กินได้ก็มีมากมาย หลายประเภท บางอย่างแบบบ้านเรากินได้ แต่พอมางอก แถบยุโรป ก็กลายเป็นเห็ดพิษ หรืออาจจะมีลักษณะคล้ายเฉยๆ เราก็ไม่รู้นะ !!ทุก ๆ ปีจะมีข่าวคนไทยในต่างประเทศกินโดนเห็ดพิษแล้วเสียชีวิต ข่าวล่าสุดคือเก็บเห็ดที่มีลักษณะคล้ายเห็ดระโงกมากิน แล้วเสียชีวิต เรื่องมันเศร้า 😢😢

พิษในเห็ดเช่น สารมัสซิมอล ( muscimol ) หรือมัสคารีน (muscarine ) ที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย วิงเวียน สับสน เห็นภาพหลอน ส่วนใหญ่มีอาการภายใน 6-24 ชั่วโมง และอาการจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อพิษอยู่ในร่างกายนาน ๆ อาจจะถึงขึ้น ตับ ไต หรือระบบประสาทพังกันเลยทีเดียว พิษจากเห็ดส่วนใหญ่ ไม่หายไปโดยการต้ม หรือลอกเปลือกนะคะ ของฟรีมันก็ดี แต่ถ้าเสียชีวิตฟรี ๆ ไม่ดีแน่!!!


2. อาหารทะเล

ส่วนใหญ่เป็นพิษที่สาหร่ายทะเลปล่อยออกมาแล้วไปสะสมอยู่ตามหอยชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หอยแมงภู่ หรือหอยนางรม ที่เรานิยมกินกัน อาการที่พบเช่น ท้องเสีย อาเจียน ไปจนถึงมีอาการอัมพาต และพิษพวกนี้ก็ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการต้ม หรือการแช่แข็ง

พิษจากสาหร่ายไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellate) ซึ่งเป็นสาหร่ายเซลล์เดียวชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่จะไปสะสมในปลาพวกปลา บารากูด้า พิษจากสาหร่ายชนิดนี้เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือเสียวแปลบปลาบที่ปลายมือปลายเท้า

3. สารพิษที่เกิดจากพืช

ที่เรียกว่าไซยาโนเจนิค ไกลโคไซด์ (Cyanogenic glycoside) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าสารไซยาไนด์ เป็นสารที่มีในพืชเช่น มันสัปปะหลัง หน่อไม้ อัลมอลด์ หรืออื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง ณ ที่นี้ ซึ่งพืชทีสามารถผลิตสารตัวนี้มีมากถึง 2000 ชนิด อาการพิษที่พบเห็นได้ทั่วไปเช่น หายใจเร็ว ความดันตก เวียนหัว ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาจจะมีอาการทางระบบประสาท ไปถึงมีอาการชัก หมดสติ และเสียชีวิต ซึ่งอาการโดยส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับปริมาณที่กินเข้า และความสามารถของร่างกายในการกำจัดพิษนั่นเอง !!!


4. สารพิษที่เกิดจากพืชตระกูลถั่ว

พิษที่เกิดจากถั่วเรียกว่าสารเลคติน ( Lectin) โดยเฉพาะถั่วที่มีลักษณะคล้ายไต เช่น ถั่วแดง อาการที่พบโดยทั่วไป เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย สารเลคตินถูกทำลายได้โดยการต้มในน้ำเดือดอย่างน้อย 10 นาที หรือโดยการแช่ถัวแห้งในน้ำอย่างน้อย 12 ชั่วโมง


5. สารพิษที่เกิดจากเชื้อรา

หรือที่เรียกว่าไมโคท็อกซิน (Mycotoxin) ส่วนใหญ่ปะปนในอาหารแห้งต่าง ๆ เช่น ผลไม้แห้ง ซีเรียล หรือถั่วลิสงป่น ที่เรารู้จักกันดีในนาม อะฟลาท็อกซิน พิษจากเชื้อราพวกนี้อาจจะมีอาการตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงอาการรุนแรง อาจทำให้เกิดมะเร็ง หรือความผิดปกติของภูมิคุ้มกันได้

อาหารที่เรากิน มีผลต่อสุขภาพของเรา ควรจะใส่ใจสักนิด เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี รักหรอก จึงบอกต่อ

เครดิต ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ( WHO )

แชร์ให้เพื่อน

7. ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา  ของไหมดักแด้

แชร์ให้เพื่อน

7. ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา  ของไหมดักแด้
     
      หลายๆคนอาจไม่เคยรู้ ว่าไหมดักแด้ มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ทำไม่ถึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายด้วยการให้สารอาหาร​โปรตีน ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยลดปัจจัยเสี่ยง​โรคมะเร็ง​บางชนิด
       วงจรชีวิต​ของตัวไหม เริ่มต้นจากฟักไข่เป็นตัวหนอน ในระยะที่เป็นตัวหนอนจะลอกคราบสี่ครั้ง ช่วงลอกคราบ​จะเป็นคล้ายจำศีล งดอาหาร อาหารของหนอนใหมคือใบหม่อน หลังจากลอกคราบครบสี่ครั้งจะเริ่มสุกมีสีเหลืองอำพัน​  ในกระบวนการเลี้ยงไหมต้องดูแลรักษาความสะอาด ปราศจาก​แมลงและกลิ่นรบกวนไม่เช่นนั้นตัวหนอนไหมจะตายหมด
        หลังจากหนอนไหมสุกจะพ่นเส้นใยไหมกลายเป็นรังไหมเพื่อห่อหุ้มตัวไหมจนหมด หลังจากนั้นหนอนไหมจะลอกคราบอีกครั้งกลายเป็นดักแด้เพื่อจำศีลอีกครั้งโดยสะสมอาหารเพื่อเลี้ยงในช่วงชีวิตไหมผีเสื้อนั่นเอง ไหมดักแด้จะแปลงร่างกลายเป็นไหมผีเสื้อกัดรังไหมออกมาผสมพันธุ์​  ตัวเมียออกไข่เป็นกลุ่มๆ หลังจากนั้นไหมผีเสื้อก็เสียชีวิตโดยไม่ได้กินอาหารแต่อย่างใด วงจรชีวิตของตัวไหมวนเป็นแบบนี้เรื่อยไป
     ไหมดักแด้เป็นช่วงชีวิตของตัวไหมที่แปลงร่างอาศัยรังไหมเป็นตัวห่อหุ้ม เมื่อนำรังไหมไปใส่น้ำร้อนต้มเพื่อปั่นเส้นไหมออกมาจึงได้ไหมดักแด้ที่สุกแล้ว ในไหมดักแด้อาจมีไข่หากเก็บไว้นานเกินไป หากเก็บไว้ไม่นานจะคล้ายเต้าหู้ไข่ที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันดี

      ประโยชน์​ของไหมดักแด้มีอะไรบ้างมาดูกันเลยคะ
     1.เส้นไหมจากตัวไหมดักแด้สามารถ​นำไปผลิตผ้าไหมที่นำมาตัดเป็นเสื้อผ้าไหม ชุดผ้าไหมที่ใส่เย็นสบายดูดีและมีราคาแพงหรือสามารถนำไปทำกระเป๋า ผ้าพันคอสำหรับผู้หญิงและผ้าขาวม้าสำหรับผู้ชาย
     2. ไหมดักแด้ให้สารอาหารโปรตีนทีมีคุณภาพสูง ที่ปลอดภัยจากสารเคมีหรือสารพิษตกค้าง​เพราะหากตัวไหมได้รับสารพิษ​จะตายตั้งแต่หนอนไหมก่อนเป็นดักแด้
    3.การบริโภค​ไหมดักแด้ช่วยลดคอเลสเตอรอล​และไตรกลีเซอร์ไรด์​ในเลือดซึ่งเป็นต้นเหตุ​ของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และ โรคไขมันในเลือดสูงนั่นเอง
  4.ไหมดักแด้มีกรดไลโนเลอิกและกรดไลโนเลนิคช่วยลดปัจจัยเสี่ยง​ของการเกิดโรคมะเร็ง
5.การบริโภค​ไหมดักแด้ช่วยบำรุงสมองช่วยเสรืมสร้างเรื่องของความจำได้ดี
6.การบริโภคไหมดักแด้ช่วยลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
7.การบริโภค​ไหมดักแด้ช่วยชะลอ​วัย ช่วยบำรุงผิวพรรณ​ให้มีความอ่อนวัย เสริมสร้างให้ผิวพรรณ​มีความแข็ง​แรง แผลหายเร็วขึ้น

เมนู​อาหารสำหรับไหมดักแด้เช่น ยำดักแด้  แกงดักแด้ใส่ใบขี้เหล็ก  ดักแด้คั่วใบมะกรูด ดักแด้ทอดใบมะกรูด(ต้องระวังเพิ่มไขมันและเป็นอาหารกินเล่นที่มีประโยชน์​อีกด้วย)​
    ข้อมูล: สำนักวิจัยและพัฒนา​หม่อนไหม

แชร์ให้เพื่อน

10 ขั้นตอน  การเตรียมรับมือน้ำท่วมอย่างมืออาชีพ

แชร์ให้เพื่อน

10 ขั้นตอน  การเตรียมรับมือน้ำท่วมอย่างมืออาชีพ

     จากคำทำนายวันพืชมงคล​ปี 2566 ได้พยากรณ์​ไว้ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณ​พอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์​และผลาหาร มังสาหารสมบูรณ์​ดี พระโคกินหญ้า เหล้า น้ำท่าบริบูรณ์​พอควร การคมนาคม​สะดวก​ขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศ​ดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจ​รุ่งเรือง
     จากสถานการณ์​ในปีก่อนๆ นั้นมักจะมีน้ำท่วมทุกปีโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่ม และบ้านเรือนที่อยู่อาศัย​ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ แม่น้ำต่างๆ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา​ออกมาประกาศ​แล้วว่าบ้านเราจะสิ้นสุดฤดูร้อนและเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤษภาคม​ 2566 จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
     ปัญหา​น้ำท่วมนั้นนับว่าเป็นภัยทางธรรมชาติ​ที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งด้านร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน​ ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพจิต​ตามมาได้ เราจะเตรียมรับมือ​กับปัญหา​น้ำท่วมอย่างไรเพื่อให้ได้รับผลกระทบ​น้อยที่สุด มาดูกันเลยคะ

  10ขั้นตอนการเตรียมรับมือปัญหา​น้ำท่วมอย่างมืออาชีพ

1.บันทึกเบอร์โทร​ฉุกเฉิน​สายด่วนรับแจ้ง-เตือนภัยน้ำท่วมโทร 111 กด 5 และสายด่วนแจ้งเตือนสาธารณภัย​โทร 1784

2.พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่พบปัญหา​น้ำท่วมทุกปี ให้เตรียม สำรวจความพร้อมของเรือขนย้ายให้พร้อมใช้งาน สำรวจและจัดเตรียมกระสอบทราย ทำผนังกั้นน้ำป้องกันน้ำไหลเข้าบ้านเรือน

3.เตรียมยาสามัญประจำบ้าน​เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย และอุปกรณ์​ทำแผลล้างแผลให้พร้อมใช้งาน รวมถึงข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่มสำรองไว้ประมาณ 3-7 วัน

4.จัดเก็บเอกสารสำคัญและทรัพย์สิน​มีค่ารวบรวมไว้ด้วยกัน บางอย่างให้ใส่ถุงซิปล็อก​เพื่อป้องกันความเสียหาย​เช่น ใบเกิด โฉนดที่ดิน หรือเอกสารสำคัญอื่นๆ

5.เตรียมอุปกรณ์​สำรองหากเกิดปัญหาไฟดับเช่น แบตเตอรี่​สำรอง ไฟฉุกเฉิน น้ำมัน ตะเกียง เทียน ไฟฉาย รวมถึงอุปกรณ์​กันน้ำฝนเช่น เสื้อกันฝน ร่ม รองเท้าบูท​ เป็นต้น

6.หากในบ้านมีสัตว์เลี้ยง​ให้เขียนชื่อเจ้าของพร้อมเบอร์โทรศัพท์​ใส่ปลอกคอเผื่อหลุดหายจะได้ติดตามตัวได้ง่ายขึ้น

7.ให้สับคัทเอ้าท์​ไฟในกรณีเริ่มมีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเพื่อป้องกันปัญหาไฟลัดวงจรหรือถอดปลั๊กไฟ​ทุกชนิด ใช้เทปกาวแปะปลั๊กไฟ​ป้องกันไฟรั่ว

8.เคลื่อนย้ายรถยนต์​ สัตว์เลี้ยง​ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเช่น วัว ควาย ให้อยู่บริเวณที่สูงกรณีน้ำท่วมสูง

9.ย้ายผู้ป่วยเด็กคนชราให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยหรือที่ทางหน่วยงานช่วยเหลือสาธารณภัยจัดให้

10.เลือกทำประกันภัยทางธรรมชาติ​เพื่อป้องความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน​เป็นการบริหารความเสี่ยง​ได้ระดับหนึ่ง

 

ปัญหาภัยทางธรรมชาติ​เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากหากเราเตรียมตัวรับมือได้ก่อนก็จะช่วยให้เกิดผลกระทบ​น้อยลงตามมาได้

แชร์ให้เพื่อน

Cyanide VS  “MOM มนุษย์แม่ล่าดับแค้น”

แชร์ให้เพื่อน

Cyanide VS  “MOM มนุษย์แม่ล่าดับแค้น”

      ไม่ได้จะสร้างกระแส​แต่ประการใด หากแต่หนังเรื่องนี้นั้นช่างเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดีในชีวิตจริงของมนุษย​์ เพราะว่าผู้ที่อ่อนแอกว่าเปรียบเสมือนผู้หญิงที่มีแรงน้อยกว่าถูกรังแกจากผู้ที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าคือผู้ชายนั่น แต่กลับไม่สามารถใช้กฎเกณฑ์​ทางกฎหมาย​มาลงโทษ​ผู้ที่รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าได้ คนอย่างมนุษย์​แม่ที่มีหัวใจอันแข็งแกร่งจึงต้องใช้วิชาที่แยบยลกว่าเพื่อล้างแค้น เอาคืน เข้าสำนวนไทยที่ว่า”แค้นนี้ต้องชำระ” หลักทางศาสนาพุทธ​ก็น่าจะเป็น “กฎแห่งกรรม” เพื่อให้ไม่ดูว่าเป็นความโหดร้าย​หากแต่่ความนัยของกฎแห่งกรรม​นั้นก็เป็นเรื่องของการแก้แค้นนั่นแหละ
     ใครจะไปรู้ได้ละว่าคนอย่างมนุษย์​แม่จะคิดเกมส์​การล้างแค้นครั้งนี้ได้อย่างแยบยลจนกระบวนการ​ทางกฎหมาย​ถึงกับไขว้เขว​ได้เหมือนกัน เข้ากับสำนวนไทยที่ว่า”ชีวิตต้องตอบแทนด้วยชีวิต” ดูๆไปก็เป็นความยุติธรรม​ดีเหมือนกันนะ หากแต่ว่าการกระทำกับผู้บริสุทธิ์​หรือไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยกับเรื่องนั้น แต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อกฎหมาย​ไม่สามารถเอาผิดได้โดย
     จากบทเรียน​ของหนังอินเดีย​เรื่องนี้ช่างสะท้อนสังคมออกมาได้เป็นอย่างดีในประเด็น​ของผู้หญิงซึ่งเป็นผู้ที่มีความอ่อนแอ​กว่าผู้ชายในด้านของพละกำลัง กลับโดนรังแกไร้ทางสู้ หากใครที่ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้หรือดูนานแล้วจนจำได้เลือนลาง แนะนำให้กลับไปดูอีกครั้งแล้วคิดวิเคราะห์​เปรียบเทียบกับคดีความในบ้านเราที่เกิดขึ้น ผู้เขียนหยุดคิดแค่นี้แหละ ขอกล่าวคำว่ากฎแห่งกรรม​แล้วกันนะ  


     มนุษย์​และสัตว์ทุกชนิดบนโลกใบนี้ต่างก็รักชีวิตของตนเองและคนในครอบครัว ก่อนลงมือทำอะไรที่เกิดผลกระทบ​ถึงชีวิตและ​ทรัพย์สิน​ของผู้ถึงแม้จะเป็นการลงมือทำด้วยตนเองหรือใช้ผู้อื่นทำแทนกับผู้ที่บริสุทธิ์​ให้ระลึก​และจดจำไว้เสมอว่า “วันพระไม่ได้มีครั้งเดียว” หมายความว่ายังงัยหรือ ความหมายก็คือ โอกาสของคนเรานั้นมีเรื่อยๆ พร้อมเสมอที่จะย้อนกลับมาเล่นงานหรือแก้แค้นได้ทุกเมื่อ เรามักจะได้ยินคำว่าให้อโหสิ​กรรมกันไปถึงเดี่ยวกรรมก็จะตามทันเองนั่นแหละ​ นั่นเป็นคำพูดไว้ปลอบใจผู้ที่อ่อนแอ​หรือมีพลังอำนาจน้อยกว่านั่นเอง หากสำหรับผู้ที่มีพลังกำลังใกล้เคียงกันแล้วคำกล่าวที่ว่า “แค้นนี้ต้องชำระ” เหมาะสมที่สุดแล้ว
     ย่อหน้าสุดท้ายจะขอกล่าวถึงซีรีย์ญี่ปุ่น​เรื่อง ไอ้มดแดงอาละวาด​ (มดแดงดันมีตัวสีส้มหรือจะเรียกว่าไอ้มดส้มดีละ)​ไม่ยุ่งการเมืองดีกว่า​ ตัวเอกของหนังมีฉายาว่า ไอ้มดแดง และมีวลีเด็ดๆที่ว่า “สู้เขาต่อไป ไอ้มดแดงของเรา” และ “สู้เขา คาเทชิ”
จบแค่นี้แหละ หากชื่นชอบบทความโปรดกดไลค์​กดแชร์และติดตามอ่านบทความดีดีภายใต้นามปากกา​ Rommyrom​ นักเขียนมือใหม่กำลังใจเกินร้อย

 

แชร์ให้เพื่อน