ฟักทอง ประโยชน์เยอะ ดีต่อสุขภาพตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า Benefits of Pumpkin
ฟักทองเป็นอาหารที่อยู่คู่กับครัวคนไทยมาช้านาน ในประเทศตะวันตกนอกจากใช้ฟักทองในการรับประทานแล้ว ยังนิยมเอามาตกแต่งวันฮาโลวีนอีกด้วย โดยยอดฟักทองสามารถเอามาต้มจิ้มน้ำพริก ผลฟักทองเอามาทำอาหารได้ทั้งคาวหวาน วันนี้ HealthyBestCare จะชวนคุณมาดูประโยชน์ของฟักทอง ที่บอกเลยว่าฟักทองประโยชน์เยอะ ไม่ควรพลาด! เรามาดูกันเลยค่ะ
10 ประโยชน์ของฟักทอง
1.ฟักทองช่วยต้านและรักษาเบาหวาน
ฟักทองมีฤทธิ์ต้านและรักษาเบาหวาน โดยจากการวิจัยในหนูทดลองพบว่า ฟักทองช่วยให้ร่างกายผลิตอินซูลินได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยจากการทดลองพบว่าฟักทองจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีในผู้ป่วยเบาหวานระยะเริ่มต้น
2.ฟักทองช่วยป้องกันมะเร็ง
จากการทดลองพบว่า ฟักทองมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก น้ำมันในเมล็ดฟักทองช่วยต้านโรคต่อมลูกหมากโตนอกจากนี้ในเมล็ดฟักทองยังมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีผลดีต่อมะเร็งเต้านมในผู้หญิง
3.ประโยชน์ของฟักทองต่อระบบประสาท
ฟักทองมีประโยชน์ต่อระบบประสาทหลายอย่าง เช่น
- ช่วยป้องกันและลดอันตรายจากพิษจากเชื้อราอะฟลาท็อกซิน โดยพบว่าเมล็ดฟักทอง และยอดฟักทอง ช่วยป้องกันและลดอันตรายจากพิษจากเชื้อราอะฟลาท็อกซิน ต่อสมองและอวัยวะอื่น
- ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า จากการทลองพบว่า ยอดฟักทองสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ ในเมล็ดฟักทองมีสารทริปโตฟาน (Tryptophan ) จำนวนมาก โดยในเมล็ดฟักทอง 100 กรัมพบสารทริปโตฟานมากถึง 576 มิลลิกรัมโดยสารทริปโตฟานมีส่วนช่วยในการสร้างสารเซโรโทนินที่เป็นสารสื่อประสาทในสมองซึ่งจะช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดี
4.ฟักทองช่วยบำรุงและป้องกันโรคตับ
เมล็ดฟักทองมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบจากการทดลองในสัตว์ทดลองที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับพบว่าหลังจากสัตว์ทดลองได้รับสารสกัดจากเมล็ดฟักทองช่วยให้ผลเลือดตับดีขึ้นนอกจากนั้นน้ำมันในเมล็ดฟักทองซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวช่วยให้โรคไขมันเกาะตับตับอักเสบดีขึ้น
5.ฟักทองช่วยในการบำรุงปอด
ฟักทองอุดมไปด้วยสารคาโรทินอยด์ ซึ่งจะช่วยบำรุงปอด ช่วยให้ปอดแข็งแรงขึ้นโดยจากงานวิจัยของต่างประเทศพบว่าการรับประทานอาหารที่มีคาโรทินอยด์สูงจะช่วยบำรุงปอดช่วยให้ปอดแข็งแรงขึ้นใครที่มีปัญหาปอดอ่อนแอหอบเหนื่อยง่ายลองรับประทานฟักทองเพิ่มขึ้นนะคะ
6.ฟักทองช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจ
โรคหลอดเลือดและหัวใจ เป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากโรคไขมันในเลือดสูง โดยจากรายงานการวิจัยพบว่า การกินฟักทองจะช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอล และไขมันชนิดเลว LDL แต่จะเพิ่มไขมันชนิดดี HDL
7.ฟักทองมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย
ในน้ำมันเมล็ดฟักทองมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด เช่น เชื้อ E-Coli, Klebsiella pneumonia นอกจากนี้ในเมล็ดและเปลือกผิวของฟักทองยังมีฤทธิ์ช่วยรักษาและป้องกันแผลในกระเพาะอาหารโรคเข่าอักเสบ
8.ฟักทองช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ
เนื่องจากในฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินเอ เบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามิน เอ Lutein และZeaxanthin ซึ่งช่วยบำรุงสายยตาได้ดี นอกจากนี้ในฟักทอง 100 กรัม ยังมีทั้งวิตามินซีประมาณ 11% และวิตามินอีประมาณ 10% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการ ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวหนังจากรังสีต่าง ๆ และวิตามินซียังมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้ผิว ช่วนเสริมภูมิต้านทาน ดังนั้นการกินฟักทองจึงช่วยบำรุงทั้งสายตา ผิวพรรณได้เป็นอย่างดี
9.ฟักทองช่วยในการควบคุมและลดน้ำหนัก
โดยในฟักทอง 100 กรัม โดยประกอบด้วยน้ำประมาณ 94% เส้นใยอาหารประมาณ 1,7% และให้พลังงานเพียงแค่ 26 กิโลแคลอรี ซึ่งเราสามารถเราสามารถรับประทานฟักทองได้ในปริมาณมาก โดยที่ร่างกายได้พลังงานนิดเดียว ที่สำคัญการรับประทานฟักทองจะทำให้ขับถ่ายได้ง่าย ช่วยให้พุงยุบ ดังนั้นการรับประทานฟักทอง จึงช่วยในการควบคุมและลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
ฟักทองสามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนู
อย่างที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นค่ะว่าฟักทองสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนูไม่ว่าจะเป็นเมนูคาวอย่างแกงฟักทองแกงอ่อมใส่ฟักทองหรือเมนูหวานเช่นบวดฟักทองสังขยาฟักทองน้ำฟักทองสูตรน้ำฟักทองอ่านต่อได้ใน
- รีวิว น้ำฟักทอง สูตรคลีนเข้มข้น ไม่ใส่น้ำตาล ดีต่อ
- รีวิว สูตรลดน้ำหนัก สมูทตี้ ฟักทอง โยเกิร์ต หุ่นดี ผิวสวย
- รีวิว ซุปฟักทอง เมนูสุขภาพ ช่วยให้นอนหลับง่าย
นอกจากประโยชน์ของฟักทองที่มีต่อสุขภาพของเราแล้ว ฟักทองยังสามารถนำมาประดับตกแต่งวันฮาโลวีน เอามาแกะสลักประดับตกแต่งจานอาหารให้สวยงามได้อีกด้วย และนี่คือประโยชน์ดี ดี ของฟักทองที่ HealthyBestCare นำมาฝากวันนี้วันนี้ลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่ฉบับหน้านะคะ
ขอขอบคุณ ข้อมูลบางส่วนจาก
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC9182978/
By HealthyBestCare