โรคเบาหวานรักษาได้อย่างไร?
การรักษาโรคเบาหวานต้องอาศัยความร่วมมือของสหวิชาชีพและตัวผู้ป่วยเอง โดยผู้ป่วยต้องตระหนักและให้ความสำคัญเนื่องจากเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หายขาดแต่ควบคุมให้โรคสงบ อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงปกติมากที่สุดโดยเน้น คุมอาหาร ออกกำลังกาย ร่วมกับกินยาปรับระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่อง
- การควบคุมอาหาร โดยอาศัยความร่วมมือกับโภชนากรแนะนำเรื่องอาหารให้ผู้ป่วยเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างถูกต้องเช่นอาหารที่กินได้ไม่จำกัดเช่นผักใบเขียว และกลุ่มที่ต้องจำกัดเช่นผลไม้รสหวาน ทุเรียน แนะนำใหกินผลไม้ที่หวานน้อย เช่น ชมภู่ ฝรั่ง เลี่ยงอาหารหวานมันและเค็ม ขนมหวานเลี่ยงน้ำอัดลม หรือแอลกอฮอล์
- การออกกำลังกาย เช่น แอโรบิก วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เดินเร็ว ไม่ควรนั่งเฉยๆ หรือนอนพักนานเกิน 90 นาที ควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบ
- การใช้ยา โดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่1 รักษาโดยฉีดอินซูลินเท่านั้น โดยพยาบาลมีหน้าที่ในการสอนเรื่องการฉีดยาและติดตามเรื่องระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการฉีดยาตามมาได้ และแพทย์จะได้ปรับยาให้ผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรคเบาหวานมีภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้างที่ต้องเฝ้าระวัง
- เบาหวานขึ้นตา เกิดจากมีน้ำตาลสูงเรื้อรัง ควบคุมไม่ได้ ส่งผลให้จอประสาทตาเสื่อม ถ้าไม่รีบรักษา อาจทำให้ตาบอดได
- เบาหวานลงไต เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูงส่งผลให้เกิดแรงดันไปที่ไตสูงด้วย มีโปรตีนไข่ขาวรั่วมากับปัสสาวะ ไตทำงานลดลงขับของเสียออกไม่ได้ มีการคั่งของของเสียส่งผลให้เป็นไตวายในที่สุด
- ภาวะแทรกซ้อนทางเส้นประสาทส่วนปลาย
มีอาการชาปลายมือ ปลายเท้า ร้อนปลายมือปลายเท้า เสี่ยงทำให้เดินชนมีบาดแผลได้งาย และแผลหายช้า หรือแผลเรื้อรัง - เส้นเลือดแดงใหญ่อุดตัน เกิดบริเวณขาส่วนปลาย นิ้ว ทำให้มีการติดเชื้อ ต้องตัดนิ้วเท้าหรือขาเนื่องจากแผลเรื้อรังและขยายขึ้นเรื่อยๆ
- เส้นเลือดหัวใจตีบ ส่งผลให้เกิดหัวขาดเลือดตามมา ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและเสียชีวิตฉับพลัน
- เส้นเลือดสมองตีบ ทำให้สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เกิดอัมพฤกษ์อัมพาต ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก
ติดตามบทความอื่นเพิ่มเติมได้ที่ healthybestcare.com