6 ประเด็น​ความเครียดกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

แชร์ให้เพื่อน

6 ประเด็น​ความเครียดกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

การลงทุน​ในสถานการณ์​ปัจจุบันของนักลงทุนรายย่อยในประเทศ​ไทยนั้นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากประเด็นความร้อนแรงการเก็บภาษีการขายหุ้นไทยหลังมีข่าวกระทรวง​การคลังเสนอ ครม. จัดเก็บภาษีการขายหุ้น หรือ Financial Translation Tax นั่นเองซึ่งภาษีดังกล่าวได้รับการยกเว้น​มาตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปัจจุบัน​ โดยเป็นภาษีธุรกิจ​เฉพาะ(Specific Business Tax) เป็นภาษีจากธุรกรรม​การขายหุ้น​(Transaction Tax) ในตลาดหลักทรัพย์​แห่งประเทศไ​ทยซึ่งคำนวนจากรายรับก่อนหักรายจ่ายใดๆทั้งสิ้นโดยจะต้องเสียภาษี​ในอัตรา 0.10%แม้ว่านักลงทุนจะทำรายการขายที่กำไรหรือขาดทุน​ก็ต้องเสียภาษี​ทั้งสิ้นถึงแม้จะยังไม่ได้ประกาศ​ออกมาอย่างแน่ชัดก็ตาม

ความเครียด(Stress)​หมายถึงสภาวะของอารมณ์​ความรู้สึก​ที่ถูกบีบคั้น​หรือกดดันซึ่งแต่ละคนจะปรับตัวให้ผ่านพ้นไปได้ ขณะที่ความเครียดที่จัดการไม่ได้จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจเปลี่ยนเป็นภาวะซึมเศร้า​(Depressive disorder) หรือโรควิตกกังวล​(Anxiety) ตามมาได้

ในการลงทุนซื้อขายหุ้นนั้นเทรดเดอร์​จะต้องติดตามราคาหุ้น คิดและตัดสินใจ​ในแต่ละครั้งเพื่อทำรายการซื้อขายแต่เมื่อมีประเด็นการต้องเสียภาษี​ในการขายหุ้นเข้ามาทำให้นักลงทุนมีความเครียดเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในภาวะตลาดที่มีความผันผวน​สูง พฤติกรรม​ราคาไม่มีความแน่นอน โมเดลการเทรดที่เคยใช้อาจไม่ได้ผล มีความผิดพลาดได้ง่าย เกิดการขาดทุนร่วมด้วย ทำให้ตัดสินใจขายหุ้นออกมาทั้งที่ขาดทุนแถมยังต้องมีภาระทางภาษีเพิ่มเข้ามาอีกด้วย

นักลงทุนสามารถสังเกต​ตนเองว่าเกิดความเครียดได้อย่างไร?

  1. นอนไม่หลับ เมื่อเกิดความเครียด​ขึ้นจะส่งผลต่อคุณภาพ​การนอนหลับ​พัผ่อนหากนอนไม่หลับเป็นระยะ​เวลานานจะส่งผลต่อสุขภาพตามมาเกิดภาวะซึมเศร้า​หรือมีความเครียดรุนแรงตามมาได้
  2. มีอารมณ์​ฉุนเฉียว​ โกรธ หงุดหงิด สับสน มีโทสะ ไม่พอใจ ต้องการแก้เกมเพื่อให้ชนะตลาดถ้ามีอาการแบบนี้ให้หยุดเทรดเพื่อตั้งสติแล้วหันมาพิจารณา​ตนเองก่อน
  3. มีความวิตกกังวล​หรือเศร้าหมอง ทำให้นักลงทุนไม่มีความสุข เศร้าหรือวิตกกังวลกับเรื่องการจัดเก็บภาษีการขายหุ้นที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้
  4. พฤติกรรม​เปลี่ยนไป จากการรวมตัวของรายย่อยในพันทิป​ไม่ซื้อขายหุ้นในวันที่8ธันวาคม2565ที่ผ่านมาเพื่อประท้วงหลักการเก็บภาษีขายหุ้นส่งผลให้การซื้อขายในวันนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัดซึ่งก่อให้เกิดพฤติกรรม​การเบื่อยหน่ายและปิดกั้นตนเอง ไม่ร่าเริง ไม่พูดหรือนิ่งเงียบ
  5. ความเครียดดังกล่าวอาจแสดงออกทางกายโดยการหายใจถี่ขึ้น​หรือการกลั้นหายใจ​โดยไม่รู้ตัว​ปวดท้อง อาเจียน หรือปวดศีรษะ​ได้
  6. หากเป็นความเครียดที่รุนแรงทำให้เกิดการฆ่าตัวตายตามมาได้

 

การดูแลตนเองและการจัดการกับความเครียดของนักลงทุน​มีดังนี้

  • วิเคราะห์​หาสาเหตุ​ของความเครียดหากเกิดจากประเด็นการเสียภาษี​จากการขายหุ้นนักลงทุนแก้ปัญหาได้โดยลดการขายหุ้นลงหรือลงทุนทุนให้ยาวนานขึ้นโดยกำหนดว่าจะขายหุ้นออกมาเมื่อมีผลกำไรเท่านั้น
  • วางแผนล่วงหน้า​แบบหลักการเบื้องต้น​คือการสร้างระบบเทรดของตนเอง(Trading System) มีการบริหาร​ความเสี่ยง และกำหนดจุดเข้าซื้อหรือการขายทำกำไรหรือจุดขาดทุนที่ชัดเจน​
  • การทบทวน​สิ่งที่เกิดขึ้นโดยนักลงทุนใช้ทักษะการรับมือในสถานการณ์​ที่คับขันหรือเผชิญ​ในตลาดผันผวน​สูง โดยการจดบันทึก​สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งช่วงที่ทำกำไรได้และการขาดทุนเพื่อนำมาพัฒนาระบบการเทรดและวางแผนการลงทุนในอนาคต
  • ออกกำลังกายครั้งละ30นาทีหลังการเทรดในแต่ละวันหรือหากิจกรรม​อื่นแทนเพื่อเป็นการระบายความเครียดเช่นการทำกิจกรรม​สันทนาการ​ดูหนัง ฟังเพลง ท่องเที่ยวเป็นต้น
  • นอนหลับพักผ่อน​ให้เพียงพอในแต่ละวัน นักลงทุนบางคนลงทุนในต่างประเทศด้วยซึ่งทำให้มีเวลานอนหลับพักผ่อน​ไม่เพียงอาจส่งผลต่อสุขภาพ​ได้
  • พบปะ​กับเพื่อนฝูงเพื่อเป็นการระบายปัญหาต่างๆ(หากเพื่อนรับฟังปัญหาเราได้)​
  • หากพบว่าไม่สามารถจัดการกับความเครียด​ได้ด้วยตนเองควรปรึกษาจิตแพทย์​อาจจำเป็นต้องรับยามารับประทาน​เพื่อบรรเทา​อาการเครียด​หรือวิตกกังวล

แม้ว่าปัญหา​ทางการเงินจะเป็นปัญหาโลกแตกที่แก้ไขยากแต่การจัดการทางการเงินโดย การหาเงิน การเก็บเงิน และการใช้จ่ายเงินเพื่อให้เกิดความสมดุล​ทางการเงินก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกันแต่เหนือสิ่งอื่นใดมนุษย์​เราไม่สามารถ​ที่จะทำงานหาเงินตลอดได้ทั้งชีวิตดังนั้นการเลือกวิธีการลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยมีไว้ใช้จ่ายในยามแก่ชราก็จำเป็นเช่นกัน

แชร์ให้เพื่อน

ความเครียดกับธรรมชาติบำบัด

แชร์ให้เพื่อน

ความเครียดกับธรรมชาติบำบัด

ความเครียดเป็นภาวะของอารมณ์​หรือความรู้สึกของคนที่เกิดขึ้นเมื่อเผชิญกับปัญหาหรือสิ่งเร้ารอบตัว โดยร่างกายและจิตใจจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆเช่น  มีการหดตัวของกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งหรือหลายส่วน  ความไม่สบายใจ  วุ่นวายใจ มีความวิตกกังวล
ธรรมชาติ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น  มี และเป็นอยู่ตามธรรมดาของสิ่งนั้นๆ เช่น ต้นไม้ คน สัตว์  สภาพภูมิประเทศ ตลอดจน  สีและกลิ่นตามธรรมชาติ
เมื่อร่างกายเผชิญความเครียด ช่วงแรกจะพยายามปรับตัว ถ้าปรับตัวไม่ได้ก็จะมีอาการเจ็บป่วย  เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ขณะที่จิตใจเผชิญความเครียด ช่วงแรกก็พยายามปรับสมดุลของจิตใจแต่เมื่อปรับไม่ได้ก็จะมีอาการซึมเศร้า เกิดความท้อแท้ในชีวิตตามมา
ฉะนั้นมนุษย์จึงเลือกสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นและมีอยู่เพื่อช่วยเยียวยาร่างกายและจิตใจ

ความเครียดใช้ธรรมชาติบำบัดอย่างไร?
1.ทะเล ชายหาด   ภูเขาต้นไม้  สายน้ำ  ลำธาร น้ำตก  ช่วยบำบัดความเครียด

ทะเล ชายหาด  ช่วยบำบัดความเครียด ทะเลเป็นแหล่งน้ำเค็มที่กว้างใหญ่ไพศาลอยู่ติดกับชายหาดมีเม็ดทราย สีขาวใสปกคลุมอยู่ เมื่อเราเดินทางไป  ชายหาดและทะเล  ประสาทสัมผัสทั้งห้าจะรับรู้ เช่น ตามองขึ้นบนท้องฟ้าและน้ำทะเลสีฟ้าคราม จมูกสูดดมกลิ่นอาย​ธรรมชาติ​  ลิ้นสัมผัสถึงความเค็มของน้ำ  หูสัมผัสเสียงคลื่นน้ำทะเลมากระทบชายฝั่ง   ผิวกายสัมผัสกับลมทะเลที่พัดผ่าน ฝ่าเท้าที่เปลือยเปล่า​สัมผัสกับเม็ดทราย ขาวละเอียด ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย สดชื่น   จิตใจโล่ง สบาย

กิจกรรมที่นิยมเพื่อบำบัดความเครียด

  • ว่ายน้ำ เล่นน้ำทะเล บานาน่าโบ๊ท สปีดโบ๊ท
  • ดูปะการังใต้ท้องทะเล
  • เดิน นั่ง นอนเล่น ขี่จักยานบนชายหาด
  • การเล่นโยคะริมทะเล
  • การถ่ายภาพไว้เพื่อรำลึกความทรงจำ

ภูเขา ต้นไม้  ช่วยบำบัดความเครียด    ภูเขาเป็นพื้นดินที่สูงกว่าบริเวณโดยรอบปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ตลอดจนสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก  ร่างกายสัมผัสถึงความสดชื่นของโอโซน​ ที่ต้นไม้ปล่อยออกมาทำให้ผ่อนคลาย สดชื่น  แจ่มใส  กลิ่นอายของทะเลหมอก สายตาสัมผัสถึงใบไม้ ใบหญ้าเขียวขจี มีทั้งต้นใหญ่ ต้นเล็กสลับเรียงรายกันไปอย่างเป็นระเบียบ

กิจกรรมที่นิยมเพื่อบำบัดความเครียด

  • การเดินป่าเพื่อชมนก ชมไม้  ส่องสัตว์
  • การกางเต็นท์​นอนกับธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร
  • นั่งมองทะเลหมอก
  • การเล่นโยคะท่ามกลางต้นไม้
  • การถ่ายภาพไว้เพื่อรำลึก​ความทรงจำ
  • สายน้ำ ลำธาร  น้ำตก  ช่วยบำบัดความเครียด

น้ำตกเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลผ่านพื้นที่ลาดชัน ลงมาพื้นดินชั้นล่าง กลายเป็นสายน้ำลำธาร  ร่างกายสัมผัสความเย็น เสียง และละอองของสายน้ำ  ทำให้ร่างกายสดชื่น แจ่มใส

กิจกรรม​ที่นิยมเพื่อบำบัดความเครียด

  • เล่นน้ำตกที่เย็นจัด ตามธรรมชาติ
  • การล่องเรือตามเกาะแก่งเพื่อสัมผัส​ธรรมชาติ​โดยรอบ
  • การถ่ายภาพไว้เพื่อรำลึกความทรงจำ

2.สัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆ ช่วยบำบัดความเครียด
สำหรับการเลือกสัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยคลายเครียดเช่น
หมา แมว  เนื่องจากสัตว์กลุ่มนี้จะมอบความรักแบบไม่มีเงื่อนไข  รับรู้ถึงความเป็นมิตร ปลอดภัย
แต่สิ่งที่ควรระวังคือโรค อุบัติเหตุต่างๆที่มาพร้อมสัตว์เลี้ยงเช่น หมากัด แมวข่วน กลาก ท้องร่วง

กิจกรรมบำบัดความเครียด

  • การจูง การอุ้ม สัตว์เลื้ยงเพื่อเดินเล่น
  • การเล่นกับสัตว์เลี้ยง
    การนำสัตว์เลี้ยงมาช่วยเยียวยาด้านจิตในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กที่ถูกทอดทิ้งหรือทารุณกรรม  บำบัดด้วยสัตว์เลี้ยงจะช่วยให้รู้สึกปลอดภัย ได้รับความรักแบบไม่มีเงื่อนไข และเด็กสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ด้วย
    สัตว์เลี้ยงที่นิยมนำมาใช้บำบัดเช่น หมา  แมว  ม้า ปลาโลมา เป็นต้น
    การรับรู้สัมผัส​ที่อบอุ่น  เพิ่มความไว้ใจผู้อื่น ปลอดภัย และเป็นมิตร ช่วยให้เด็กเรียนรู้เรื่องสัมพันธภาพ​
    จะเป็นได้ว่าธรรมชาติรอบตัวเราช่วยในการบำบัดความเครียดได้ ขึ้นอยู่กับการเลือกให้เหมาะสมกับจริตของแต่ละบุคคล การมีสัตว์เลี้ยงในบ้านก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยบำบัดความเครียดได้ดีทีเดียว

ติดตามบทความอื่นเพิ่มเติมได้ที่ healthybestcare.com

แชร์ให้เพื่อน