ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อม (Dementia) ต้องวางแผนชีวิตอย่างไร? ประเมินด้วยตนเองได้ไหม?
เมื่อฉันเริ่มหลงลืมเป็นการชั่วคราวช่วงป่วยโรคโควิด19 พูดๆอยู่ก็ลืมว่าพูดอะไรต้องรีบจดขั้นตอนต่างๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะจำไม่ได้ แม้ความจำในระยะสั้นๆ หากได้รับวินิจฉัยว่าเป็นภาวะสมองเสื่อม ต้องรีบทำความเข้าใจ ยอมรับ และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการดำเนินไปของโรคซึ่งเกิดการเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ เพื่อให้สามารถวางแผนชีวิตของตนให้เหมาะกับภาวะเสื่อมถอยของสมองในด้านต่างๆเช่น การบันทึกเกี่ยวกับทรัพย์สินมีอยู่ที่ใหนบ้าง? (กรณีเก็บใส่ไหฝังดินก็ต้องจดบันทึกหรือแจ้งลูกหลาน ญาติ ไม่อย่างนั้นหากขุดเจอทีหลังจะกลายป็นทรัพย์สินของแผ่นดินไม่ใช่ของลูกหลานอีกต่อไป) เงินประกันชีวิต เงินประกันสังคม เงินลงทุนในกองทุน ตลาดทุน สกุลเงินดิจิทัล อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น การทำพินัยกรรมชีวิต (Advanced directive plan) การช่วยฟี้นคืนชีพ
การบริจาคร่างกาย แหล่งสนับสนุนการดูแลหากต้องพึ่งพาผู้อื่นเมื่อไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งนี้ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมหากตรวจพบตั้งแต่เริ่มแรกการได้รับยากลุ่มแอนติโคลิเนสเตอเรสจะช่วยชะลอความจำเสื่อมได้ ชะลอการพึ่งพา และดูแลตนเองออกไปให้ยาวนานที่สุดทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปได้ รวมถึงการเรียนรู้เทคนิควิธีการจัดกิจกรรมพื้นฐานซึ่งได้กล่าวถึงในบทความที่ผ่านมาแล้ว 2 ตอน เพื่อทำให้ผู้ดูแลและผู้เกี่ยวข้องเกิดความเข้าใจและยอมรับเกี่ยวกับอาการแสดงที่เปลี่ยนแปลง ช่วยลดความขัดแย้ง หากขาดความเข้าใจแล้วจะคิดว่าผู้ป่วยเสแสร้ง แกล้งทำหรือแกล้งทำร้ายตนเอง นอกจากนี้การใช้ยาช่วยเรื่องความจำก็สามารถช่วยได้ในผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมระยะเริ่มต้นและระยะกลางเท่านั้น
การรักษาผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมโดยไม่ใช้ยาซึ่งผู้เขียนเองก็ใช้วิธีการนี้อยู่เช่น
1.การจดบันทึกกิจกรรม ข้อมูลประจำวันในเรื่องที่สำคัญๆลงในเครื่องมือสื่อสารซึ่งปัจจุบันนี้มีแอพลิเคชั่นให้เลือกมากมายเช่น แอพการเงิน เพื่อช่วยจดจำข้อมูลในระยะสั้นหลังจากนั้นค่อยเขียนบันทึกประจำวันช่วงก่อนนอนอีกครั้งเพื่อรื้อฟื้นความจำระยะสั้น และสรุปบันทึกรายเดือน รายไตรมาส และรายปี จากข้อมูลที่บันทึกไว้ต่อไป เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง การบันทึกการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆลงในเฟซบุ้คเป็นต้น
2.การทบทวนความหลังต่างๆที่ผ่านมาในชีวิต เช่น การเปิดดูรูปภาพเก่าๆ ทั้งในอัลบั้มรูปภาพและเครื่องมือสื่อสาร การเปิดดูเรื่องราวย้อนหลังในเฟซบุ้ค การอ่านบันทึกประจำวัน ประจำเดือน ประจำปี เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้มีสมรรถภาพสมองมากที่สุดและมีความเพลิดเพลินอีกด้วย
3.การออกกำลังกาย กิจกรรมการออกกำลังกายนั้นมีหลากหลายรูปแบบโดยเลือกให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน เช่น การเดิน การวิ่ง การเล่นโยคะ ฟิตเนส เป็นต้น
การประเมินภาวะสมองเสื่อมแบบองค์รวมโดยยึดหลักการตรวจสุขภาพทั่วไป ได้แก่ การซักประวัติ สังเกตพฤติกรรมของตนเอง การตรวจร่างกาย การตรวจพิเศษโดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการรวบรวมข้อมูลด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและความสามารถในการทำหน้าที่ ความรับผิดชอบต่างๆเป็นต้น
ลักษณะของผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้ คือ
1.ความสามารถในการจดจ่อกับสิ่งตรงหน้าได้สั้น สิ่งเร้าภายนอกกระตุ้นได้งายเช่น เสียงดัง แสงสว่างมากหรือน้อยเกินไป
2.โรคประจำตัวอะไรบ้าง ประวัติการใช้ยาและอาหารเสริม สัมพันธภาพในครอบครัวเป็นต้น ประวัติการเข้ารักษาในโรงพยาบาล การผ่าตัด การบาดเจ็บ การรับวัคซีนต่างๆ
3.การคิดและตัดสินใจอย่างมีเหตุผล การพูด ภาษา พฤติกรรมและอารมณ์เช่น หากมีภาวะเสื่อมของสมองส่วนหน้า จะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การแสดงออกทาวภาษา อารมณ์เป็นต้น
4.ภาวะสมองเสื่อมนั้นมีอาการคล้ายกับโรคบางชนิดเช่น โรคชรา (Normal aging change) ภาวะสับสนเเฉียบพลัน(Delirum)ภาวะซึมเศร้า(Depression) ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ(Hypothyroid) น้ำคั่งในโพรงสมอง (hydrocephalus) การนอนกรนหรือนอนไม่หลับ โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มอาการทั้งหลายต้องได้รับการประเมินและวินิจฉัยแยกโรคจากผู้เชี่ยวชาญเป็นต้น
5.ประวัติทางด้านจิตใจ อารมณ์และพฤติกรรมเช่น ซึมเศร้า เฉยเมย กระวนกระวาย หลงผิด ประสาทหลอน หวาดระแวง จำตนเองไม่ได้ซึ่งผู้เขียนเองก็พบเจอปัญหานี้ในช่วงติดเชื้อโควิด19 เช่นกัน
6.การตรวจทางห้องปฏิบัติและตรวจพิเศษอื่นๆโดยอาศัยผู้เชียวชาญในการแปรผลต่างๆเป็นต้น
7.ประวัติการเจ็บป่วยโรคซิฟิลิสที่ไม่ได้รับการรักษาทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมเทียมได้
การตรวจประเมินผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมนั้นจะช่วยให้สามารถทราบถึงปัญหาความรุนแรงของโรค ผลกระทบต่างๆ เพื่อวางแผนในการรักษาเช่น การให้ยาเพื่อชะลอความเสื่อมของสมองและยืดเวลาการพึ่งพาผู้ดูแลเป็นต้น โดยเบื้องต้นนั้นการประเมินตนเองช่วงแรกจะช่วยให้สามารถตรวจพบได้ในช่วงแรกและใช้ยาช่วยชะลอได้ในระดับหนึ่งก่อนสมองจะเสื่อมถอยมากขึ้น
สนใจบทความอื่นๆเกี่ยวกับหัวใจติดตามอ่านได้ที่ healthybestcare.com